9 อันดับ ไบโอติน รุ่นไหนที่คนใช้เยอะที่สุด อัพเดทล่าสุดปี 2567

สั่งซื้อออนไลน์และรอรับสินค้าจากที่บ้าน วันนี้มาแนะนำร้านออนไลน์ที่มีสินค้ามากมายให้เลือก ที่เราไม่ต้องออกไปซื้อของข้างนอก
วันนี้ถ้าหากท่านสนใจ ราคาคุ้มค่า เราแนะนำเลยเจ้านี้ ไบโอติน  สินค้ากับร้านที่เราแนะนำ  ราคาถูกที่สุดเท่าที่เคยได้ยินมา สั่ง ไบโอติน  ไป ราคาถุกจริงๆ สินค้าใส่ซองกันกระแทกมาตอนจัดส่งให้ด้วย ส่งเร็วทันใจ คุณภาพเยี่ยมพอดีเห็น ราคาน่าจะลดลง ซื้อเลย สินค้าไม่เสียหาย มีคุณภาพ ส่งไว ของพรีเมี่ยม ตอนนี้ลองใช้มาซักพักใช้ได้ดี ไม่พบปัยหาเลยกับทางร้านค้า

     
คุณรู้หรือไม่ ? นอกจากไบโอติน มีเรื่องที่ต้องพิจารณาก่อนตัดสินใจซื้ออีกมากมายไม่ว่าจะเป็นดีไซน์ สี ขนาด ราคา วัสดุที่ใช้และน้ำหนักซึ่งปั จจัยเหล่านี้ขึ้นอยู่กับความชอบและลักษณะ ซึ่งมีทั้ง ไบโอติน และการใช้ของแต่ละบุคคล ดังนั้นหากคุณเป็นคนหนึ่งที่กำลังมองหา ไบโอติน วันนี้ทางเราได้จัด แนะนำ ไบโอตินยี่ห้อดีต่อใจมาให้คุณแล้ว!

ปฏิเสธไม่ได้ว่าเดี๋ยวนี้คนเรามีเวลาดูแลตัวเองน้อยลง ยิ่งกับหนุ่มสาวชาวออฟฟิศด้วยแล้วยิ่งแล้วใหญ่ เพราะไม่ค่อยมีเวลาว่างไปออกกำลังกาย แถมยังเลือกทานอาหารที่มีประโยชน์ได้ค่อนข้างยาก เพราะมีเวลาพักน้อย แถวออฟฟิศมีอะไรให้ทานหรืออะไรได้ทานเร็วก็ต้องทานไปก่อน ทำให้สุขภาพแย่ลงจนส่วนต่าง ๆ ของร่างกายเริ่มฟ้อง วันนี้เราเลยจะพูดถึงอาหารเสริมที่ช่วยบำรุง “ผิวพรรณและเส้นผมให้แข็งแรง” กันค่ะ นั่นคือ “ไบโอติน” นั่นเอง

เนื้อหาวันนี้จะถูกแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ได้แก่ “วิธีการเลือกซื้อ” และ “9 อันดับสินค้ายอดฮิตขายดี” ที่ผ่านการเปรียบเทียบคุณสมบัติ ราคา และรีวิวเรียบร้อยแล้ว มาดูกันดีกว่าว่า “ไบโอตินยี่ห้อไหนดียี่ห้อไหนเด็ด” มีคนทานแล้วเห็นผลเยอะ ถ้าพร้อมแล้วก็ไปอ่านกันได้เลยค่ะ
ไบโอติน คือ วิตามินชนิดหนึ่งที่เรียกอีกชื่อว่าวิตามิน เอช (H) เป็นหนึ่งในกลุ่มวิตามิน บี ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการยับยั้งการหลั่ง Histamine สารที่ร่างกายจะขับออกมาเมื่อมีอาการแพ้ต่อสิ่งเร้าต่าง ๆ ทำให้เกราะป้องกันของผิวแข็งแรงขึ้น ขณะเดียวกันก็ช่วยในกระบวนการสังเคราะห์ Keratin สารสำคัญในเล็บและผม จึงทำให้กลับมามีสุขภาพดีอีกครั้ง โดยมีแหล่งกำเนิด ดังนี้

  1. ลำไส้ใร่างกายของเรา บริเวณลำไส้ใหญ่

  2. อาหารประเภท ตับวัว ไข่แดง แป้งถั่วเหลือง นม เนยถั่ว และแป้งที่ไม่ขัดสี

อย่างไรก็ตามไม่ได้หมายความว่า “จะไม่มีวันขาดแคลน” นะคะ เพราะเมื่อเราต้องทานยาปาฏิชีวนะหรือกลุ่มยาฆ่าเชื้อแบคทีเรียเป็นเวลานาน ๆ แบคทีเรียที่ทำหน้าที่สร้างไบโอตินในลำไส้ใหญ่ก็จะถูกทำลาย หรือแม้แต่การทานไข่ขาวดิบก็ตาม เพราะมีสาร “อะวิดิน” ซึ่งสามารถลดอัตราการดูดซึมไบโอตินของร่างกายได้ นอกจากนี้ยังมีปัจจัยอื่น ๆ ร่วมกระตุ้นให้รุนแรงมากขึ้นอีก เช่น การไดเอท
ดังนั้นเมื่อร่างกายขาดไบโอติน ผิวหนัง เล็บ และผมก็จะอ่อนแอลง เป็นเหตุให้เกิดปัญหาต่าง ๆ ตามมาอีก ซึ่งวิธีที่ดูแลตัวเองได้ง่ายที่สุดคือการทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ เพื่อช่วยเสริมไบโอตินให้กับร่างกาย แต่ถ้าใครอยากได้ทางรัดในการมีสุขภาพดีเร็วขึ้น แนะนำให้ซื้อ “อาหารเสริม” มาทานนะคะ
เกร็ดน่ารู้ : หลายคนเข้าใจว่าซื้อไบโอตินมาทานแล้วผมจะต้องหยุดร่วงทันที จริง ๆ แล้วอาหารเสริมชนิดนี้จะเห็นผลได้ชัดเจนต่อเมื่อสาเหตุของผมร่วงมาจากการขาดไบโอตินค่ะ ถ้าเกิดจากสาเหตุอื่น ๆ จะช่วยได้ในระดับหนึ่งเท่านั้น
เมื่อรู้แล้วว่าไบโอตินมีสรรพคุณอะไร คราวนี้เรามาดูกันดีกว่าค่ะว่าควรจะเลือกซื้ออย่างไรให้ได้ไบโอตินที่มีคุณภาพและปลอดภัยกับเรามากที่สุด
จากการศึกษาพบว่าร่างกายของผู้ใหญ่อย่างเรา ๆ ต้องการไบโอตินวันละ 50 mcg แต่สามารถทานเกินมากกว่านั้นได้ค่ะ เพราะวิตามินชนิดนี้เป็นประเภท “ละลายในน้ำ” ดังนั้นเมื่อในร่างกายได้รับมากเกินไปก็จะขับออกมาทางปัสสาวะหรือเหงื่อ โดยที่ไม่มีผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายใด ๆ
อย่างไรก็ตามสำหรับสาว ๆ ที่กำลังตั้งท้องต้องระวังปริมาณของไบโอตินนิดนึงนะคะ เพราะแม้ว่าระดับไบโอตินของคนท้องจะน้อยกว่าหนุ่มสาวทั่วไปอยู่แล้ว แต่ถ้าคุณทานทดแทนมากเกินไปจะทำให้รกและรังไข่เหี่ยว รวมไปถึงเกิดการสะสมที่ตัวอ่อนได้ ก่อนทานจึงควรศึกษาหรือปรึกษาแพทย์ให้ดีเสียก่อน
หากพิจารณาจากอัตราการดูดซึม อาหารเสริมไบโอตินจะมีอยู่ 2 ประเภทด้วยกันค่ะ แบบแรกเป็นแบบ “แคปซูล (Time release)” เมื่อทานเข้าไปแล้วยาจะค่อย ๆ ซึมเข้าสู่ระบบร่างกายอย่างช้า ๆ ทำให้ร่างกายได้รับไบโอตินอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่แบบที่สองจะเป็นแบบ “เม็ดยา (Immediate release)” ไบโอตินจะถูกละลายทันทีที่โดนน้ำ เมื่อทานเข้าไปในปริมาณมากแล้วร่ายกายซึมซาบได้ไม่หมดก็จะถูกขับออกทันทีเช่นกัน ซึ่งอาหารเสริมที่ดีควรมีลักษณะเป็นแคปซูลค่ะ
อย่างไรก็ตามข้อเสียของแบบแคปซูลคือมีราคาค่อนข้างแพงค่ะ ถ้าใครอยากประหยัดงบแนะนำให้ซื้อแผงหรือกระปุกที่มีจำนวนเม็ดน้อยลงมาหน่อยจะดีกว่า อย่างน้อยซื้อครั้งหนึ่งจะได้ไม่ต้องเจ็บตัวมาก ส่วนใครที่ชอบแบบเม็ดยาที่ดูดซึมได้ทันทีมากกว่า แนะนำให้เลือกแบบที่มีปริมาณต่อ 1 เม็ดไม่มากแต่ทานวันละหลายครั้งจะดีกว่าทานเม็ดที่มีปริมาณมากครั้งเดียวนะคะ เช่น เลือกไบโอตินเม็ดละ 1500 mcg แบบแบ่งทานวันละ 3 ครั้งแทนเม็ดละ 5,000 mcg ที่ทานครั้งเดียวจบ
ไบโอตินที่ทำเป็นอาหารเสริมมีแหล่งกำเนิด 2 ที่ด้วยกันค่ะ แบบแรกคือสังเคราะห์ ส่วนแบบที่สองเป็นแบบสกัดจากธรรมชาติ ซึ่งมีความปลอดภัยมากกว่า และเมื่อไม่กี่ปีก่อนมีงานวิจัยรับรองว่าไบโอตินที่ได้จากธรรมชาติมีบทบาทสำคัญในการเร่งให้อาการผิวหนังอักเสบหรือโรคผิวหนังอื่น ๆ ทุเลาเร็วขึ้น แม้ว่าจะมีราคาแพงกว่าก็ตาม ดังนั้นจึงเหมาะกับคนที่กังวลเรื่องความปลอดภัยและผิวหนังมากเป็นพิเศษ
แม้ว่าอาหารเสริมจากแบรนด์ชั้นนำต่าง ๆ จะได้รับการทดสอบแล้วว่าไม่เป็นอันตรายต่อผู้บริโภค แต่ถ้าใครใส่ใจสุขภาพมากเป็นพิเศษ แนะนำให้ซื้อสูตรที่มีสารเติมแต่งน้อยที่สุดหรือแทบไม่มีเลยหากเป็นไปได้ เพราะสารเหล่านี้อาจส่งผลต่ออัตราการดูดซึมไบโอตินของร่างกาย และที่เลวร้ายไปมากกว่านั้นคืออาจทำให้อาการต่าง ๆ ของเราแย่ลงไปกว่าเดิมอีกด้วย
อาหารเสริมไบโอตินมี 2 สูตรด้วยกันค่ะ สูตรแรกจะเป็นไบโอตินเพียว ๆ ไม่มีสารอาหารอื่น ๆ เพิ่มเติม ในขณะที่สูตรที่สองจะรวมมาให้ด้วย โดยแต่ละสารจะถูกผสมมาในอัตราส่วนอย่างละนิดอย่างละหน่อยเท่านั้น ทำให้เหมาะกับวัตถุประสงค์การทานที่แตกต่างกัน
ถ้าคุณต้องการบำรุงสุขภาพทั่วไป ให้เลือกแบบรวม แต่ถ้ากังวลเรื่องภาวะขาดแคลนไบโอตินมากเป็นพิเศษ หรือกำลังมีภาวะดังกล่าว แนะนำให้ทานสูตรไบโอตินล้วนจะเห็นผลได้เร็วกว่าค่ะ

เพื่อน ๆ คนไหนที่กำลังมองหาผลิตภัณฑ์ใช้บำรุงเส้นผมและหนังศีรษะโดยตรง ซึ่งอาจจะทำให้เห็นผลได้รวดเร็วทันใจมากกว่า แนะนำให้ตามไปอ่านบทความที่เรานำมาฝากด้านล่างเหล่านี้เลยค่ะ รับรองว่าคุณจะได้ทราบเคล็ดลับดี ๆ ในการฟื้นฟูสุขภาพเส้นผมและหนังศีรษะเพิ่มเติมอีกมากมาย ไม่ผิดหวังแน่นอนค่ะ

เป็นอย่างไรกันบ้างคะ ตอนนี้ทุกคนคงรู้แล้วว่าจะเลือกซื้ออย่างไรให้เหมาะกับตัวเอง ดังนั้นเพื่อไม่เป็นการเสียเวลา เราไปอ่านข้อมูลของสินค้าที่น่าสนใจกันเลยดีกว่า มาดูกันสิว่าแต่ละยี่ห้อแต่ละสูตรมีคุณสมบัติอย่างไรบ้าง
สูตรนี้เป็นสูตรรวมสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อผิวพรรณ เส้นผมและเล็บค่ะ โดยใน 1 เม็ดมีไบโอตินเป็นองค์ประกอบหลัก ทำงานเสริมกับวิตามินอื่น ๆ อีก เช่น เอ, บี2, บี6, ซี, ดี, อี, ไนอะซิน และซิงค์ พร้อมผสานคุณค่าจากสารสกัดจากธรรมชาติอีกหลายชนิด เช่น น้ำมันอาร์แกนและหญ้าหางม้า ตรงเข้าช่วยบรรเทาอาการผิวหนังอักเสบและอาการปวดเมื่อยของกล้ามเนื้อ หลายคนที่ใช้ต่างคอนเฟิร์มว่าได้ผลจริง
อาหารเสริมจาก Thompson ได้รับความนิยมทั้งในไทยและหลาย ๆ ประเทศเลยค่ะ โดยสูตรนี้เป็นสูตรไบโอตินล้วน ประกอบไปด้วยเซลลูโลส, แป้งสาลี, ซิลิกาและกรดสเตียริก ซึ่งเป็นส่วนผสมที่สกัดได้จากธรรมชาติจึงค่อนข้างมีความปลอดภัยสูง หลังจากใช้แล้วหลายคนบอกว่าผมแข็งแรงขึ้น หลุดร่วงน้อยลง แถมผิวพรรณยังดูเรียบเนียนจนสังเกตได้ แต่ต้องทานเป็นประจำอย่างต่อเนื่องได้นะจ๊ะถึงจะสัมผัสได้
อาหารเสริมเพิ่มไบโอตินสูตรสำหรับบำรุงผมทั่วไป ประกอบไปด้วยแอล-ซิสเทอีน ช่วยให้เส้นผมแข็งแรง, สังกะซี ช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตของร่างกาย, เหล็ก องค์ประกอบสำคัญของเมล็ดเลือดแดง, ไนอะซิน ฟื้นฟูการทำงานของผิวหนังให้กลับมาเป็นปกติ และแคลเซียม ช่วยให้เลือดแข็งตัว หลังทานแล้วหลายคนสัมผัสได้ว่าผมร่วงน้อยลงและเล็บแข็งแรงขึ้น
ยังคงอยู่กับแบรนด์เดิม แต่สูตรนี้เน้นให้การดูแลเส้นผมเป็นพิเศษ โดยรวมสารสกัดจากธรรมชาติที่มีประโยชน์ เช่น เมล็ดแฟลกซ์และสนหางม้า ผสานด้วยคุณค่าจากแร่ธาตุและวิตามินต่าง ๆ เช่น L-Methionine, Manganese Amino Acid Chelate, วิตามินอี และวิตามินเอ เพื่อทำงานร่วมกับไบโอติน ช่วยให้เส้นผมแข็งแรง ลดการอักเสบของหนังศีรษะและลดผมหงอก
Haru เป็นอีกหนึ่งยี่ห้อที่น่าสนใจ ซึ่งสูตรนี้นอกจากจะมีไบโอตินเป็นส่วนประกอบหลักแล้วยังอุดมไปด้วยสารสกัดจากธรรมชาติ ได้แก่ สนหางม้าและบริเวอร์ยีสต์ ผสานคุณค่าด้วยซิงค์และแมกนีเซี่ยม เรียกได้ว่าอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุนานาชนิดที่เป็นองค์ประกอบสำคัญในการทำงานของเส้นผมและเล็บ หลังทานอย่างต่อเนื่องหลายคนสังเกตได้ว่าเล็บแข็งแรงขึ้น เส้นผมหลุดร่วงน้อยลง แถมยังช่วยให้ยาวเร็วขึ้นอีกด้วย
ไบโอตินเพียว ๆ สกัดจากธรรมชาติ เจือด้วยแคลเซี่ยมเล็กน้อยเพื่อช่วยเสริมการทำงาน ช่วยบำรุงเส้นผม ผิวพรรณและเล็บให้กลับมามีสุขภาพดี หลังทานแล้วผมจึงร่วงน้อยลง เล็บไม่เปราะบางและยาวเร็วขึ้น เช่นเดียวกับผิวพรรณที่กลับมาสดใส โดยได้รับการรับรองการผลิตจากสถาบัน NPA GMP และผ่านมาตรฐาน U.S. FDA จึงมั่นใจได้ว่าปลอดภัยแน่นอน
เข้าสู่ช่วงอันดับที่หลายคนจับตามองเป็นพิเศษ เริ่มต้นกันด้วยสูตรนี้ที่เป็นสูตรไบโอตินเพียวและเสริมการทำงานด้วยแคลเซียม ช่วยฟื้นฟูสุขภาพของรากผม ทำให้กลับมาแข็งแรงไม่หลุดร่วงง่าย ๆ พร้อมกันนั้นก็ช่วยดูแลเล็บให้มีสุขภาพดี และปลอบประโลมผิวที่อักเสบ กระตุ้นให้เกราะป้องกันกลับมาทำงานได้เป็นปกติ การันตีคุณภาพด้วยมาตรฐาน U.S. FDA หลายคนที่ได้ทานต่างบอกว่าเห็นผล
อาหารเสริมไบโอตินที่อุดมไปด้วยสารสกัดจากธรรมชาติ ได้แก่ มิลเลท, ฮอสเทล, ชาขาว, เคลป์แห้ง และพริก ผสานคุณค่ากับแร่ธาตุและวิตามินต่าง ๆ ได้แก่ สังกะสี, ซีลีเนียม, วิตามินซี และวิตามินอี ช่วยในกระบวนการต่อต้านอนุมูลอิสระ กระตุ้นให้รากผมแข็งแรงขึ้นและฟื้นฟูให้กลับมามีสุขภาพดี ไม่หลุดร่วงเหมือนก่อน หลายคนที่ทานติดใจจนต้องกลับมาซื้อซ้ำ เรียกได้ว่าเป็นแบรนด์ที่ชาวไทยไว้วางใจมานานและไม่ทำให้ผิดหวังค่ะ
แม้จะไม่ได้มีคำว่า “ไบโอติน” อยู่ที่หีบห่อ แต่สูตรนี้ก็มีสารดังกล่าวเป็นส่วนผสมหลัก และทำงานร่วมกับสารอาหารอื่น ๆ อีกมากมาย เช่น ซังกะสี, ซิลิกา, ทองแดง, เหล็ก และวิตามินอีกหลายชนิด ได้แก่ บี3, บี5, บี6 และซี ช่วยลดอาการผมร่วงจากการขาดไบโอตินได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมฟื้นฟูให้แข็งแรงไม่เปราะหักง่ายและแลดูมีสุขภาพดี ใครที่กำลังเจอปัญหาผมเสียต้องรีบจัดด่วน ๆ เลยค่ะ
สะดุ้งกันเลยใช่ไหมคะ เพราะส่วนใหญ่ต่างตกหลุมรักของหวานด้วยกันทั้งนั้น บางคนนี่ต้องทานทุกวันเลยเชียว แต่เพื่อน ๆ ทราบไหมคะว่าของหวานส่วนใหญ่ โดยเฉพาะเค้กมักจะมีส่วนผสมของชีส ครีมและไข่ขาว ที่หากร่างกายได้รับมากเกินไปจะทำให้แบคทีเรียตัวร้ายในลำไส้ใหญ่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้ความสามารถในการสร้างไบโอตินลดลง ซึ่งนอกจากของหวานแล้วยังมีอาหารอื่น ๆ อีกที่ส่งผล ได้แก่ กระเทียมและพริกไทย
บางคนอาจจะคิดว่าถ้าทานอาหารเสริมช่วยอยู่แล้วก็คงไม่เป็นอะไรหรอก แต่หากในลำไส้ใหญ่มีแบคทีเรียตัวร้ายที่คอยกัดกินไบโอตินอยู่มาก การทานอาหารเสริมก็อาจช่วยอะไรไม่ได้ค่ะ ทางที่ดีจึงควรลดการทานอาหารที่กล่าวมา และทานอาหารที่มี Butyric acid bacteria เช่น นม เพื่อเพิ่มแบคทีเรียที่ดีให้กับลำไส้จะดีกว่า
เป็นอย่างไรบ้างคะ เห็นไหมคะว่าการเลือกซื้ออาหารเสริมที่หลายคนมักจะคิดว่ายุ่งยาก จริง ๆ แล้วมีหลักการไม่กี่อย่างเอง แค่เราใส่ใจอ่านส่วนประกอบ เลือกสูตรเพียวหรือผสมสารอาหารอื่น ๆ โดยควรสกัดจากธรรมชาติและมีลักษณะเม็ดที่ค่อย ๆ แทรกซึมเข้าสู่ร่างกายช้า ๆ เราก็จะได้สุขภาพของผิว เส้นผมและเล็บที่ดีขึ้นแล้ว
หลังจากที่เพื่อน ๆ ซื้ออาหารเสริมไบโอตินที่เหมาะกับตัวเองที่สุดไปแล้ว อย่าลืมทานให้ครบตามที่ข้างขวดแนะนำนะคะ และควรจะทานเป็นประจำอย่างต่อเนื่องเพื่อให้เห็นผลลัพธ์ชัดเจน ขณะเดียวกันก็ต้องใส่ใจอ่านคำเตือนต่าง ๆ ให้ดีด้วย เพราะแม้ว่าไบโอตินจะสามารถขับออกมาทางปัสสาวะ แต่ผู้หญิงที่ท้องอยู่ก็ต้องทานอย่างระมัดระวังด้วย