7 อันดับ โทนเนอร์ถูกและดี ที่ซื้อแล้วไม่ผิดหวัง อัพเดทล่าสุดปี 2567

หากคุณกำลังมองหา คูปองส่วนลดมากมาย มีให้เลือกหลากหลาย ส่งฟรี ส่งไว เก็บเงินปลายทาง ช้อปออนไลน์ 24 ชั่วโมง ช้อปได้ที่ร้านค้าแนะนำของเรา
ราคาเด็ดถุกใจลุกค้าแน่นอน ราคาที่ไม่แพง เราแนะนำเลยเจ้านี้ โทนเนอร์ถูกและดี  สินค้ากับร้านที่เราแนะนำ  ราคาถูกที่สุดเท่าที่เคยได้ยินมา สั่ง โทนเนอร์ถูกและดี  ไป ราคาถูกกว่าซื้อห้าง สินค้าใส่ซองกันกระแทกมาตอนจัดส่งให้ด้วย ส่งเร็วทันใจ คุณภาพเยี่ยมพอดีเห็น ราคาน่าจะลดลง เลยจัดไป ได้รับสินค้าเรียบร้อย ส่งทางไปรษณีย์หรือไม่ก็ทางหน่วยจัดส่ง ของพรีเมี่ยม ได้รับสินค้าแล้วดีใจมาก ตรงตามต้องการในรุป ไม่มีปัญหา

     
หากคุณกำลังมองหาโทนเนอร์ถูกและดีพร้อมฟังก์ชั่นการใช้งานที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ได้หลากหลาย เราขอแนะนำให้รู้จักกับนวัตกรรมโทนเนอร์ถูกและดีชั้นเลิศจากแบรนด์ผู้ผลิตที่คร่ำวอดอยู่ในวงการ โดยแต่ละชนิดมีทั้งแบบ โทนเนอร์ถูกและดี ซึ่งวันนี้ทางเราจึงจัดอันดับ แนะนำ โทนเนอร์ถูกและดี ที่ตอบโจทย์กับตัวคุณมาให้เลือกกันแล้วดังนี้

ในปัจจุบันการแต่งเติมใบหน้าด้วยเครื่องสำอางเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญในชีวิตประจำวันของใครหลายคน โดยเฉพาะสาว ๆ ตั้งแต่วัยรุ่นถึงวัยทำงาน แต่ยิ่งเมคอัพจัดหนักมากเท่าไร การจะทำความสะอาดผิวให้สะอาดอย่างหมดจดก็ถือเป็นเรื่องยากขึ้นเท่านั้น เพราะในแต่ละวันเรายังต้องเจอกับมลพิษและสิ่งสกปรกมากมาย ถ้าหากทำความสะอาดไม่ดีพอก็อาจจะส่งผลกระทบต่อผิวหน้าของคุณได้ ดังนั้น นอกจากการล้างทำความสะอาดใบหน้าตามปกติแล้ว คุณจึงควรเพิ่มขั้นตอนการดูแลผิวหน้าให้ดียิ่งขึ้นไปอีกด้วยการใช้ “โทนเนอร์” นั่นเองค่ะ


แต่ด้วยความที่โทนเนอร์ส่วนมากมักมีราคาสูง บางคนจึงไม่กล้าที่จะลงทุนเพื่อซื้อผลิตภัณฑ์นี้มาใช้ ดังนั้น เราจึงอยากมาแนะนำวิธีการเลือก โทนเนอร์ถูกและดี เพื่อให้คนที่กำลังลังเลอยู่ได้ลองตัดสินใจดูอีกครั้ง พร้อมกันนั้น เรายังมี 10 อันดับ โทนเนอร์ถูกและดี ราคาสุดคุ้ม ทำความสะอาดผิวหน้าได้สะอาดหมดจด รูขุมขนกระชับ จะเป็นอย่างไรบ้างนั้นต้องไปดูพร้อม ๆ กันเลยค่ะ




อันดับแรก เรามาทำความรู้จักเกี่ยวกับโทนเนอร์กันก่อนเลยค่ะ เพราะหลายคนอาจจะยังไม่เคยได้ยินชื่อของผลิตภัณฑ์นี้มาก่อน จึงไม่รู้ว่ามีประโยชน์อย่างไรกันแน่ โดย โทนเนอร์ หมายถึง ผลิตภัณฑ์สำหรับเช็ดทำความสะอาดสิ่งสกปรกที่ตกค้างบนใบหน้า หลังจากการล้างหน้าตามปกติในทุก ๆ วัน ส่งผลให้ใบหน้าของคุณสะอาดยิ่งขึ้น ช่วย ลดความมันส่วนเกิน และ ลดการเกิดสิว ได้เป็นอย่างดี


แต่ประโยชน์ของโทนเนอร์ยังไม่หมดแต่เพียงเท่านี้ค่ะ เพราะผลิตภัณฑ์นี้นอกจากจะช่วยทำความสะอาดอย่างล้ำลึกแล้ว ยังช่วย ปรับสภาพผิวหน้าก่อนการทาครีมบำรุงผิว ทำให้ผิวหน้าของคุณสามารถซึมซับครีมเหล่านั้นลงสู่ผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นอีกด้วย นี่จึงเป็นสาเหตุสำคัญว่า ทำไมเราจึงควรใช้โทนเนอร์เพิ่มเติมถ้าหากอยากให้ผิวหน้ามีสุขภาพที่ดีขึ้นนั่นเองค่ะ

เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า โทนเนอร์แต่ละประเภทต่างก็มีความแตกต่างกันออกไป การเลือกโทนเนอร์ให้เหมาะสมกับตนเองจึงเป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้าม ซึ่งเราก็ได้รวบรวมข้อมูลที่เป็นประโยชน์มาให้กับคุณแล้ว ตามด้านล่างนี้เลยค่ะ

ประเภทการใช้งานของโทนเนอร์หลัก ๆ มีอยู่ 3 ประเภทด้วยกันค่ะ แต่ละประเภทต่างก็ให้คุณประโยชน์และแก้ปัญหาผิวที่แตกต่างกันออกไปดังนี้

อย่างที่เราได้เกริ่นไปแล้วตอนต้นว่า สำหรับคนที่ต้องแต่งหน้าบ่อย ๆ หรือต้องออกไปเจอมลภาวะในแต่ละวันมากมาย การล้างหน้าด้วยโฟมธรรมดาหรือคลีนเซอร์นั้นไม่เพียงพอแน่นอนค่ะ ดังนั้น เราจึงขอแนะนำให้คุณเลือกใช้โทนเนอร์สูตรที่ช่วยขจัดสิ่งสกปรกและสารต่าง ๆ ที่ตกค้างตามรูขุมขน เพื่อให้มั่นใจว่าผิวหน้าของคุณจะสะอาดหมดจดอย่างแท้จริง โดยเฉพาะหากคุณเป็นผู้ที่มีความมันส่วนเกินบนใบหน้า ก็ยิ่งไม่ควรมองข้ามการเลือกใช้โทนเนอร์สูตรนี้โดยเด็ดขาดนะคะ

โทนเนอร์หลาย ๆ ตัวที่เราพบเห็นตามท้องตลาด ล้วนแล้วแต่มีส่วนผสมเพื่อช่วยในการบำรุงผิวทั้งสิ้น ส่วนมากมักจะเป็นสารบำรุงที่ช่วยฟื้นฟูผิวที่แห้งกร้านให้กลับมาชุ่มชื้น แลดูมีชีวิตชีวา เช่น วิตามินบี 3 วิตามินบี 5 และวิตามินอี เป็นต้น นอกจากนี้ โทนเนอร์บางยี่ห้อยังผสมสารบำรุงอื่น ๆ เพิ่มเติม เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้โทนเนอร์ด้วย อาทิ โปร-เรตินอล เอ (Pro-Retinal A) สารบำรุงที่ช่วยลดเลือนริ้วรอยจาก L'Oreal Paris หรือ Acnacidol™ ช่วยต่อต้านเชื้อแบคทีเรียและป้องกันการเกิดสิวจาก Smooth E และอื่น ๆ อีกมากมาย


การใช้โทนเนอร์จึงไม่ได้เป็นเพียงแค่การทำความสะอาดผิวหน้าธรรมดา ๆ แต่ยังเป็นการดูแลสุขภาพผิวไปในตัวด้วย ดังนั้น ถ้าหากคุณไม่มีครีมบำรุงผิวหน้าที่ใช้อยู่ คุณสามารถใช้เพียงโทนเนอร์อย่างเดียวก็เพียงพอแล้ว แต่ถ้าหากมีครีมบำรุงผิวหน้าตัวอื่นร่วมด้วย ก็ยิ่งช่วยให้ผิวหน้าของคุณได้รับการฟื้นบำรุงที่มากขึ้นอีกค่ะ

นอกจากคุณสมบัติที่ช่วยทำความสะอาดอย่างล้ำลึกและช่วยฟื้นบำรุงเบื้องต้นแล้ว การเช็ดผิวหน้าด้วยโทนเนอร์ยังช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่าที่ตายแล้วให้หลุดลอกออกไป อีกทั้งยังช่วยกระตุ้นให้ผิวหน้าเกิดการสร้างเซลล์ผิวใหม่ขึ้นมาด้วยนะคะ เพราะโทนเนอร์บางยี่ห้อมีส่วนผสมของ กรดซาลิไซลิก (Salicylic Acid) หรือ BHA โทนเนอร์จึงเหมาะกับผู้ที่มีปัญหาผิวหมองคล้ำ จุดด่างดำจากรอยสิวต่าง ๆ เพราะสามารถใช้เพื่อบำรุงผิวหน้าให้ดีขึ้นและกลับมากระจ่างใสมากกว่าเดิมได้นั่นเองค่ะ

การเลือกใช้โทนเนอร์ให้เหมาะกับแต่ละสภาพผิว ก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญเช่นเดียวกัน เพราะโทนเนอร์บางประเภท อาจมีส่วนผสมที่ไม่เหมาะกับสภาพผิวหน้าของบางคน​ ดังนั้น เรามาดูกันเลยค่ะว่า โทนเนอร์ประเภทไหนบ้างที่เหมาะกับผิวของเรามากที่สุด


ผิวมัน : เนื่องจากเป็นผิวที่มีการผลิตน้ำมันบนผิวหน้าออกมาเยอะเป็นพิเศษ จึงอาจจะทำให้เกิดการสะสมของสิ่งสกปรกบนผิวหน้าได้ง่าย และเป็นสาเหตุของการเกิดสิว ดังนั้น คุณควรเลือกใช้โทนเนอร์ที่เป็นสูตรช่วยควบคุมความมัน กระชับรูขุมขนและเน้นขจัดสิ่งสกปรกบนผิวหน้าให้สะอาดล้ำลึกมากขึ้นค่ะ


ผิวผสม : เป็นผิวที่ค่อนข้างดูแลยากสักหน่อย เพราะผิวจะมีความมันเป็นพิเศษโดยเฉพาะ T-Zone แต่บริเวณอื่นจะค่อนข้างแห้ง สำหรับโทนเนอร์ที่เหมาะสมกับสภาพผิวประเภทนี้ ควรเลือกที่เป็นสูตรเน้นปรับสมดุลผิวที่สามารถควบคุมความมันได้ แต่ก็ยังคงความชุ่มชื้นให้กับผิวได้เช่นเดียวกัน


ผิวแห้ง : เป็นผิวที่ขาดน้ำและอาจจะแพ้ง่ายพอสมควร ดังนั้น จึงควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เป็นสูตรอ่อนโยน รวมถึงไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์และเน้นสูตรที่มีมอยเจอร์ไรเซอร์สูง เพื่อช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นบนผิวหน้าของคุณไม่ให้แห้งกร้านจนเกินไปนั่นเองค่ะ

สำหรับคนที่มีปัญหาเรื่องสิว ส่วนใหญ่มักจะเกิดมาจากสภาพผิวมันหรือผิวที่บอบบางแพ้ง่าย ดังนั้น คุณควรมองหาผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีส่วนผสมของน้ำมัน ซิลิกอน น้ำหอม พาราเบนและแอลกอฮอล์ เพราะถ้าหากคุณแพ้สารเหล่านี้ ก็จะยิ่งทำให้เกิดสิวมากขึ้นกว่าเดิมค่ะ


นอกจากนี้ การเลือกโทนเนอร์ที่มีสารสกัดจากธรรมชาติ เช่น น้ำมันทีทรี, ต้น Witch Hazel, สารสกัดจากหัวหอม (Allium Cepa), ชะเอมเทศ (Licorice) หรือกลุ่มสาร Acnacidol BG ที่ถูกสกัดมาจากนมผึ้ง (Royal Jelly) ก็ยังถือเป็นการช่วยดูแลปัญหาสิวได้เป็นอย่างดี เพราะสารเหล่านี้ต่างก็มีคุณสมบัติในการช่วยฆ่าเชื้อและยับยั้งแบคทีเรียชนิดต่าง ๆ ที่เป็นต้นเหตุของการเกิดสิว แถมยังปลอดภัยจากสารเคมีอีกด้วยนะคะ

มาถึงช่วงที่หลาย ๆ คนรอคอยกันแล้วนะคะ ในครั้งนี้ เราได้ทำการรวบรวมข้อมูลและคุณสมบัติโทนเนอร์ที่มีคุณภาพดี แถมยังมีราคาไม่สูงมากมาฝากกันด้วย ไปดูกันเลยดีกว่าค่ะว่า จะมียี่ห้อไหนที่น่าสนใจบ้าง

Herb Ministry เป็นโทนเนอร์สูตรออร์แกนิก ที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติอย่าง Tea Tree Oil ซึ่งเป็นน้ำมันที่ถูกสกัดมาจากใบของต้นไม้พื้นเมืองในประเทศออสเตรเลีย มีคุณสมบัติช่วยยับยั้งเชื้อโรค แบคทีเรียชนิดต่าง ๆ ทำให้การเกิดสิวหรือรอยสิวมีปริมาณลดลง แถมยังช่วยผลัดเซลล์ผิวและควบคุมความมันได้ดี นอกจากนี้โทนเนอร์ยังมีกลิ่นหอมของ Aroma Master ทำให้คุณรู้สึกผ่อนคลายได้อีกด้วยค่ะ

เป็นโทนเนอร์ที่เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวมันและผิวผสมเป็นอย่างยิ่ง เพราะเป็นสูตร Oil Control ที่จะเข้ามาช่วยควบคุมความมันส่วนเกินบนผิวหน้าของคุณไม่ให้มันเยิ้มจนเกินไป นอกจากนี้ ยังมีส่วนผสมของ Salicylic Acid มีหน้าที่ยับยั้งการสะสมของแบคทีเรีย พร้อมช่วยผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วให้หลุดออกไปได้อย่างล้ำลึก ทำให้ผิวหน้าสะอาดและลดอัตราการเกิดสิวต่าง ๆ แต่ข้อเสียของโทนเนอร์สูตรนี้ คือ อาจจะไม่เหมาะสำหรับคนแพ้ง่าย เนื่องจากมีส่วนผสมของแอลกอฮอล์นั่นเองค่ะ

โทนเนอร์ของ L'Oreal Paris ตัวนี้ถูกออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ผู้ที่มีปัญหาผิวตามอายุที่มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นปัญหาริ้วรอย ผิวหน้าเริ่มหย่อนคล้อยไม่กระชับเหมือนเดิม ถ้าหากคุณมีปัญหาเหล่านี้ล่ะก็ ต้องลองใช้โทนเนอร์สูตรนี้ค่ะ เพราะมีส่วนผสมที่สำคัญอย่าง Dermalift Technology และ Pro-Retinal A ช่วยบำรุงผิวหน้าให้กลับมาดูกระชับและผิวพรรณอ่อนเยาว์ขึ้น รวมถึงช่วยลดริ้วรอยต่าง ๆ ให้จางลงได้ภายใน 4 สัปดาห์ค่ะ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ผลลัพธ์อาจขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคลนะคะ

ด้วยสภาพอากาศที่ร้อนของไทย ประกอบกับมลภาวะจากฝุ่นและสิ่งสกปรกต่าง ๆ ที่มากมาย โทนเนอร์ของ KA จึงเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่จะเข้ามาช่วยทำความสะอาดผิวหน้าของคุณให้ปราศจากสิ่งตกค้างอื่น ๆ ได้อย่างล้ำลึก ด้วยประสิทธิภาพของสารสกัดจากแร่ธาตุธรรมชาติ MALA’KITEที่ได้รับการขนานนามว่าเป็นหินอัญมณีธรรมชาติ ทำให้ช่วยเสริมสร้างคอลลาเจนและลดเลือนริ้วรอยบนใบหน้า ผิวจึงดูเรียบเนียนยิ่งขึ้น แถมเป็นสูตรอ่อนโยนเพราะไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ เหมาะกับทุกสภาพผิวค่ะ

สำหรับโทนเนอร์ของ Neutrogena สูตรนี้ เป็นสูตรที่ถือว่าอ่อนโยนต่อผิว เพราะไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์เลยค่ะ เหมาะสำหรับผู้ที่มีสภาพผิวแห้งและผิวบอบบางแพ้ง่ายมาก ๆ ที่สำคัญ ยังมีส่วนผสมของมอยเจอร์ไรเซอร์อย่าง Glycerin ช่วยบำรุงผิวหน้าให้ชุ่มชื้น ไม่แห้งกร้านจนเกินไป และยังมี Salicylic Acid ช่วยผลัดเซลล์ผิวและขจัดสิ่งสกปรกที่อาจจะตกค้างบนผิวหน้าหรือรูขุมขนให้สะอาดมากยิ่งขึ้น นับว่าเป็นโทนเนอร์อีกตัวหนึ่งที่ช่วยเตรียมผิวและบำรุงได้อย่างมีประสิทธิภาพจริง ๆ ค่ะ

สำหรับคุณสมบัติของโทนเนอร์จาก Cute Press ตัวนี้ หลัก ๆ แล้วก็จะเน้นในเรื่องของการขจัดสิ่งสกปรกที่อาจจะตกค้างหลังจากทำความสะอาดผิวหน้า และช่วยปรับสภาพผิวของคุณให้พร้อมบำรุงผิวในขั้นตอนต่อไปได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ไม่เพียงเท่านั้น ผิวหน้าของคุณยังได้รับการบำรุงจากสารสกัด Witch Hazel และ Sodium PCA ช่วยรักษาความชุ่มชื้น ให้ผิวแลดูอิ่มน้ำ เบาสบายผิว และยังช่วยให้รูขุมขนดูเล็กลง พร้อมกับลดความมันส่วนเกินได้เป็นอย่างดีด้วยค่ะ

ตัวนี้จะเป็นโทนเนอร์แบบ Bi-Phase Lotion คือ การผสมผสานระหว่างโทนเนอร์กับผงแป้งนั่นเองค่ะ และส่วนผสมที่เป็นผงแป้งก็ยังถูกสกัดมาจากธรรมชาติอย่างใบ Boreal Tea ซึ่งเป็นต้นชาพันธุ์พื้นเมืองของป่าโบเรียล ในประเทศแคนาดา มีคุณสมบัติที่ช่วยขจัดสิ่งสกปรกและควบคุมความมันได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ ยังช่วยลดปัญหารูขุมขนกว้าง เพิ่มความกระชับ และสามารถปรับสภาพผิวให้ดูสวยกระจ่างใสได้อย่างเป็นธรรมชาติ สำหรับคนที่ผิวมันหรือผิวผสม จะต้องลองใช้ดูสักครั้งนะคะ

สำหรับคนที่มีปัญหาสิวที่เกิดซ้ำซากและไม่หายสักที เราขอแนะนำโทนเนอร์ของ Smooth E ให้กับคุณค่ะ จุดเด่น คือ มีคุณสมบัติช่วยแก้ปัญหาผิวได้ถึง 4 ประการภายในขวดเดียว ทั้งช่วยบำรุงผิวให้นุ่มชุ่มชื้นกระจ่างใสด้วยส่วนผสมของวิตามินบี 3 และวิตามินอี ช่วยกระชับรูขุมขนบนผิวหน้าให้เรียบเนียนขึ้น ที่สำคัญ ยังมีส่วนผสมของ Sebacic Acid และ 10-HDA Analogue ที่จะเข้ามาช่วยลดการอักเสบของต่อมไขมัน ควบคุมความมัน และต้านเชื้อแบคทีเรียอย่าง P.Acne ที่เป็นต้นเหตุของการเกิดสิวให้ลดลงไปได้อย่างเห็นผลอีกด้วยค่ะ

โทนเนอร์ของแบรนด์เครื่องสำอางยี่ห้อดังจากประเทศอิตาลี ที่หลายคนอาจจะคิดว่าราคาสูงจนเกินไปตั้งแต่แรกเห็น แต่ถ้าเทียบกับคุณภาพแล้ว ราคาไม่แรงอย่างที่คิดแน่นอนค่ะ เพราะเป็นโทนเนอร์น้ำกลั่นจากธรรมชาติถึง 95% และมีส่วนผสมของสารสกัดจากดอกกุหลาบสายพันธ์ุดีถึง 3 ชนิด ได้แก่ Rosa Canina, Rosa Centifolia, Rosa Damascena ที่มีคุณสมบัติช่วยบำรุงผิวหน้าให้กระจ่างใส ชุ่มชื้น แลดูอ่อนเยาว์มากขึ้น ที่สำคัญ เป็นสูตรอ่อนโยนใช้แล้วไม่แพ้ เหมาะกับสภาพผิวของทุกคนค่ะ

ไม่ว่าใครก็ไม่ควรพลาดขวดนี้ค่ะ เพราะเป็นแบรนด์สกินแคร์จากอเมริการะดับตำนานที่ก่อตั้งมามากกว่า 100 ปีเลยค่ะ และที่สำคัญ ยังเป็นโทนเนอร์ที่มีส่วนผสมของพืชอย่าง Witch Hazel และว่านหางจระเข้ ซึ่งทั้ง 2 ตัวนี้ต่างก็มีสรรพคุณที่ช่วยลดอาการอักเสบของสิว ช่วยสมานแผล รวมถึงลดริ้วรอยต่าง ๆ ทั้งรอยสิว จุดด่างดำ และยังช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นให้กับผิวหน้าได้ดีอีกด้วย แต่คุณค่าดี ๆ ยังไม่หมดเท่านั้น เพราะตัวนี้ยังเป็นสูตรอ่อนโยน ปราศจากพาราเบน น้ำหอม และแอลกอฮอล์ ทำให้สามารถใช้ได้กับทุกสภาพผิวเลยค่ะ

เป็นอย่างไรกันบ้างคะ สำหรับบทความโทนเนอร์ถูกและดีที่ทางทีมงานได้นำเสนอในครั้งนี้ หลาย ๆ คนพอได้ทราบถึงประโยชน์ที่แท้จริงของโทนเนอร์ไปแล้ว แน่นอนว่าคงอยากจะลองซื้อมาเพิ่มบนโต๊ะเครื่องแป้งกันแล้วใช่ไหมคะ อย่างไรก็ตาม แม้ว่าโทนเนอร์แต่ละตัวจะมีคุณสมบัติที่แตกต่างกันออกไป แต่ถ้าหากคุณเลือกให้เหมาะสมกับสภาพผิวหรือการใช้งานที่ต้องการเน้น รับรองว่าคุณจะได้โทนเนอร์ที่ถูกใจอย่างแน่นอนค่ะ แต่ถ้าหากยังนึกไม่ออก คุณก็สามารถเลือกจาก 10 อันดับที่เราได้คัดสรรมาได้เลยนะคะ


แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ก่อนจะตัดสินใจซื้อทุกครั้ง คุณควรตรวจสอบวันเดือนปีที่ผลิตและส่วนผสมที่มีอยู่ในโทนเนอร์เสมอ หรืออาจจะลองซื้อสินค้าที่เป็นขนาดทดลองมาใช้ก่อนก็ได้ เพราะหากใช้แล้วไม่เวิร์กหรือเกิดการแพ้ขึ้นมา เราจะได้ไม่เสียเงินในกระเป๋ามากจนเกินไปค่ะ และหลังจากใช้โทนเนอร์แล้ว อย่าลืมบำรุงผิวหน้าด้วยครีมอื่น ๆ เพิ่มเติมด้วยนะคะ