แนะนำ 5 อันดับ ไฮไลต์หน้า แบบแท่ง ยอดฮิตน่าซื้อ อัพเดทล่าสุดปี 2567

คูปอง ส่วนลด ในร้านค้าออนไลน์แนะนำของเรา จัดเต็ม โปรลดเยอะ สำหรับ Flash Sale สามารถใช้งานได้ รับข้อเสนอมากมาย กับดีลเด็ดประจำวัน คูปอง ส่วนลด จัดเต็ม สัมผัสประสบการณ์ช้อปปิ้งออนไลน์ที่สะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย และไว้ใจได้กับโมบาย แอปพลิเคชั่น
คุณภาพเจ๋ง ราคาที่ไม่แพง เราอยากนำเสนอ ไฮไลต์หน้า แบบแท่ง  สินค้าทางอินเตอร์เน็ต  ราคาพิเศษส่งให้คุณลูกค้าถึงหน้าบ้าน สั่ง ไฮไลต์หน้า แบบแท่ง  ไป ถูกจนไม่น่าเชื่อ สินค้าใส่ซองกันกระแทกมาตอนจัดส่งให้ด้วย ส่งเร็วทันใจ คุณภาพเยี่ยมพอดีเห็น ราคาจะลดลงอีกลองเข้าไปดูที่ร้านได้ สินค้าดีๆ ราคาถุก จัดส่งรวดเร็ว คุณภาพเกินราคา ได้ลองแล้วนับว่าดีเลยทีเดียว ไม่พบปัยหาเลยกับทางร้านค้า

     
คุณรู้หรือไม่ ? นอกจากไฮไลต์หน้า แบบแท่ง มีเรื่องที่ต้องพิจารณาก่อนตัดสินใจซื้ออีกมากมายไม่ว่าจะเป็นดีไซน์ สี ขนาด ราคา วัสดุที่ใช้และน้ำหนักซึ่งปั จจัยเหล่านี้ขึ้นอยู่กับความชอบและลักษณะ ซึ่งมีทั้ง ไฮไลต์หน้า แบบแท่ง และการใช้ของแต่ละบุคคล ดังนั้นหากคุณเป็นคนหนึ่งที่กำลังมองหา ไฮไลต์หน้า แบบแท่ง วันนี้ทางเราได้จัด แนะนำ ไฮไลต์หน้า แบบแท่งยี่ห้อดีต่อใจมาให้คุณแล้ว!

"ไฮไลต์" เป็นหนึ่งในเครื่องสำอางที่ช่วยสร้างมิติให้กับใบหน้าของสาว ๆ ทำหน้าที่เพิ่มความสว่าง สร้างแสงและเงาให้กับใบหน้า เพื่อให้ส่วนที่ปัดไฮไลต์ดูโดดเด่นขึ้นมา จึงมักนิยมใช้ปัดบริเวณโหนกแก้ม โหนกคิ้ว และสันจมูก ปัจจุบันมีไฮไลท์มากมายหลายรูปแบบและเนื้อสัมผัสให้สาว ๆ เลือกใช้ ไม่ว่าจะเป็นแบบฝุ่นอัดแข็ง (ลักษณะเดียวกับบลัชออน), แบบครีม, แบบลิควิด รวมถึง "ไฮไลต์แบบแท่ง" ที่เราจะพูดถึงในวันนี้ด้วย ซึ่งแต่ละแบบนั้นก็จะให้สัมผัสเวลาใช้และคุณสมบัติที่แตกต่างกันเล็กน้อยค่ะ

ในบทความนี้ เราจะมาแนะนำไฮไลต์หน้าแบบแท่งให้เพื่อน ๆ รู้จักกันค่ะ ซึ่งข้อดีของไฮไลต์ประเภทนี้ คือ ใช้งานง่ายและพกพาสะดวก แถมติดทนนานด้วย นอกจากนี้ เรายังมีการจัด 10 อันดับ ไฮไลต์หน้าแบบแท่งยอดฮิตที่ขายดิบขายดีกันในหมู่สาว ๆ โดยผ่านการเปรียบเทียบทั้งคุณสมบัติและราคามาให้อ่านกันด้วย สำหรับใครที่ยังไม่เคยใช้ไฮไลต์แบบแท่งคงจะอยากรู้วิธีการเลือกกันแล้วใช่ไหมคะ ? ถ้าอย่างนั้น ตามมาดูกันเลย

เราได้ทำการรวบรวมข้อมูลและเทคนิคการเลือกไฮไลต์ที่ดีมาจากช่างแต่งหน้าชาวญี่ปุ่นชื่อดังค่ะ ซึ่งมีตั้งแต่วิธีการเลือกไปจนถึงวิธีการใช้อย่างละเอียดเลย ดังนั้น สาว ๆ มั่นใจได้เลยว่า หากทำตามคำแนะนำนี้ ต้องได้ทั้งไฮไลต์ที่ชอบและนำเทคนิคการปัดไฮไลต์ไปเพิ่มความสวยเป๊ะได้แน่นอนค่ะ ไปติดตามกันเลยค่ะ

หากแบ่งไฮไลต์ออกเป็นประเภทใหญ่ ๆ จะแบ่งได้ 3 โทนสีด้วยกัน คือ สีขาว สีชมพู และเบจ-ทอง หากเพื่อน ๆ เลือกสีไฮไลต์ได้เข้ากับผิว ก็จะทำให้สามารถสร้างเงาและมิติให้ใบหน้าได้อย่างเป็นธรรมชาติค่ะ

สีที่ขอแนะนำสำหรับผู้ที่มีผิวขาว คือ "ไฮไลต์โทนชมพู" ยิ่งถ้าหากคุณมีปัญหาหนักใจเกี่ยวกับรอยฝ้า ไฮไลต์สีชมพูจะสามารถปกปิดได้ พร้อมทำให้ผิวดูสุขภาพดีเหมือนมีเลือดฝาดเลยล่ะค่ะ จุดเด่นของไฮไลต์โทนชมพู คือ เมื่อทาลงไปที่ผิว สีจะค่อย ๆ จางลง ทำให้กลืนไปกับผิวได้อย่างเป็นธรรมชาติ


ในกรณีที่สาว ๆ มีรอยแดงบนผิวหน้า หากใช้ไฮไลต์สีชมพูก็จะยิ่งทำให้รอยแดงเด่นชัดเข้าไปใหญ่ ดังนั้น ก่อนใช้แนะนำให้ลงคอนซีลเลอร์ก่อนเพื่อลดรอยแดงค่ะ

สำหรับสาวไทยส่วนใหญ่ที่มีผิวอันเดอร์โทนเหลือง ไฮไลต์ที่แนะนำ คือ โทนสีเบจหรือสีทองค่ะ เพราะจะช่วยให้ผิวของคุณดูสดใส มีชีวิตชีวา ผิวหน้าจะดูสว่างยิ่งขึ้น ใช้แล้วใบหน้าดูเปล่งประกายมีเสน่ห์น่ามองค่ะ

ไฮไลต์สำหรับสาวผิวเหลืองมีอยู่หลายประเภทเลยทีเดียว ตั้งแต่สีเบจไปจนถึงสีทอง หรือถ้าสาวคนไหนผิวเข้มก็ไม่ต้องกังวลเลยค่ะ เพราะปัจจุบันหลาย ๆ แบรนด์ก็ออกไฮไลต์สีบรอนซ์ทองออกมาด้วย ไม่ว่าจะผิวแบบไหนก็สามารถใช้ได้อย่างสบายใจค่ะ

ไฮไลต์สีขาวเหมาะสำหรับใช้เน้นจุดใดจุดหนึ่งบนใบหน้า เป็นสีที่สามารถใช้ได้โดยไม่ต้องคำนึงถึงสีผิว ด้วยความที่เป็นสี Contrast กับผิวอย่างชัดเจน จึงทำให้ใบหน้าดูโดดเด่น มีมิติขึ้นมาได้ มักใช้ไฮไลต์ในจุดสำคัญ ๆ เช่น สันจมูกเพื่อให้ดูโด่งขึ้น ใช้กับมุมปากเพื่อให้ริมฝีปากดูอวบอิ่มขึ้น หรือแม้แต่ใต้ท้องคิ้ว เพื่อให้คิ้วดูเด่นขึ้นและแยกส่วนกับดวงตาอย่างชัดเจน

แต่มีข้อที่ควรระวัง คือ ด้วยความที่เป็นสีขาว หากทามากเกินไปจะทำให้สีขาวลอย ดูไม่เป็นธรรมชาติหรือดูหลอกตาเอาได้ แนะนำให้เริ่มทาจากน้อย ๆ บาง ๆ ก่อน หากยังไม่พอใจก็ค่อย ๆ ปัดเพิ่มทีละนิด ไม่ควรลงเยอะตั้งแต่แรก เพราะถ้าพลาดทีต้องมานั่งแก้กันยกใหญ่เลยล่ะค่ะ


เกร็ดน่ารู้ : อีกหนึ่งข้อดีของไฮไลต์แบบแท่ง คือ ความเป็นธรรมชาติ เมื่อทาไปแล้วจะดูแนบเนียนไปกับผิว ทำให้ใบหน้าดูมีชีวิตชีวาขึ้น โดยจะใช้แปรงเกลี่ยหรือแม้แต่นิ้วมือของเราก็ได้ค่ะ อย่างไรก็ตาม แนะนำให้ลงหลังจากทารองพื้นเสร็จแล้ว และควรเป็นรองพื้นเนื้อลิควิดหรือแบบที่มีมอยส์เจอร์ไรเซอร์สูง เพราะจะเกาะติดผิวหน้าได้ดีเวลาทาไฮไลต์ทับ โดยรองพื้นจะไม่หลุดด้วย

นอกจากนี้ คุณไม่ควรใช้ไฮไลต์หลังจากทาแป้งแล้ว เพราะอาจเป็นคราบหรือทำให้สีดูไม่สม่ำเสมอได้ ควรทาไฮไลต์ก่อนแล้วค่อยเซ็ตด้วยแป้ง จึงจะดูแนบเนียนมากกว่า นอกจากจะใช้ไฮไลต์ตามจุดที่กล่าวไปแล้ว ไอเทมตัวนี้ยังสามารถใช้ปรับเปลี่ยนรูปหน้าของคุณได้อีกด้วยค่ะ โดยที่รูปหน้าของแต่ละคนก็จะมีตำแหน่งและลักษณะการทาที่แตกต่างกันออกไป แต่ตามหลักพื้นฐานแล้ว จะทาบริเวณใต้ตาเป็นรูปสามเหลี่ยมคว่ำลง เพื่อทำให้แก้มดูยกขึ้น บริเวณ C โซน (โหนกคิ้ว-แก้ม) และบริเวณ U โซน (ใต้ริมฝีปาก) เพื่อทำให้คางดูเรียวยาวขึ้น เทคนิคนี้สาว ๆ สามารถหาวิธีเพิ่มเติมได้ง่าย ๆ จากอินเทอร์เน็ตเลยค่ะ

หลังจากเลือกโทนสีที่ต้องการได้แล้ว ต่อไปเราก็ไปเลือกดูเนื้อสัมผัสให้เหมาะกับแต่ละช่วงวัยกัน ซึ่งก็ถือว่าเป็นอีกจุดสำคัญที่จะช่วยให้คุณเลือกไฮไลต์ที่เหมาะสมกับตัวเองไปใช้งานได้ค่ะ

สาว ๆ ในช่วงอายุนี้ส่วนใหญ่จะยังมีสุขภาพผิวที่ดีอยู่แล้ว เพราะระบบต่าง ๆ ในร่างกายยังคงทำงานได้อย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นการสร้างคอลลาเจนหรือการผลัดเซลล์ผิว จึงสามารถใช้ไฮไลต์ได้ทุกแบบ ไม่ว่าจะเป็นแบบแมตต์ แบบประกายมุก หรือแบบฉ่ำวาว สำหรับสาว ๆ วัยนี้ หากเลือกไฮไลต์ที่เป็นสีธรรมชาติ ไม่ว่าเนื้อสัมผัสแบบไหนก็ล้วนแล้วแต่ให้ผลลัพธ์ที่ดีไม่แพ้กันค่ะ

พอถึงวัยเลข 3 สิ่งสำคัญสำหรับสาวในวัยนี้ก็คือ ภาพลักษณ์ สาว ๆ หลายคนในวัยนี้ต้องการลุคที่ดูสุขุม เป็นผู้ใหญ่ ดังนั้น ใครที่อยากแต่งหน้าแล้วให้ลุคที่ดูโตมากขึ้น ลองเลือกไฮไลต์แบบเนื้อเชียร์กึ่งแมตต์จะเหมาะที่สุดค่ะ เพราะค่อนข้างมีความแวววาว แต่ไม่มากจนเกินไป และยังสามารถปกปิดริ้วรอย รวมถึงปัญหาผิวที่เพิ่มขึ้นตามอายุอย่างจุดด่างดำได้อีกด้วย ที่สำคัญคือ ทำให้ผิวดูเป็นธรรมชาติด้วยค่ะ


นอกจากนี้ อีกหนึ่งปัญหาที่มาพร้อมกับอายุ คือ ผิวเสื่อมโทรมดูไร้ชีวิตชีวา ยิ่งถ้าใครดูแลไม่ดี ก็จะยิ่งเห็นได้ชัดเลยล่ะค่ะ ดังนั้น การเลือกสีไฮไลต์จึงเป็นสิ่งสำคัญ ขอแนะนำให้เลือกโทนสีที่สว่างกว่าผิวนิดนึง เพื่อช่วยให้ผิวคุณดูเปล่งปลั่งมากขึ้นค่ะ

เนื้อสัมผัสและสีที่แตกต่างกัน ถือเป็นอีกหนึ่งอย่างที่สามารถเปลี่ยนลุคของคุณได้ ยกตัวอย่างเช่น หากสาว ๆ คนไหนต้องทำกิจกรรมที่ค่อนข้างทางการ อย่างพรีเซนต์งานหรือปประชุม แล้วอยากได้ลุคที่ดูเป็นสาว Working Woman ขอแนะนำโทนสีชมพูหรือสีเบจ เนื่องจากโทนสีไม่โดดเด่นเกินไป และหากใช้เนื้อกึ่งแมตต์ก็จะได้ฟินิชลุคที่ดูสุขุมและสง่า สวยแพงแบบไม่เตะตา ส่วนถ้าใครที่อยากดูสุขภาพดี ก็ขอแนะนำแบบฉ่ำวาว ให้ลุคสาว Healthy รักสุขภาพแน่นอนค่ะ


แต่สำหรับในโอกาสพิเศษคุณต้องไปงานเลี้ยงหรือไปเดท ให้ลองใช้ไฮไลต์แบบที่มีกลิตเตอร์หรือแบบประกายมุก เพื่อเพิ่มความโดดเด่นให้กับใบหน้า สร้างความประทับใจให้แก่หนุ่ม ๆ มากกว่าเดิมแน่นอนค่ะ และหากเลือกที่เป็นโทนสีทอง ก็จะยิ่งเพิ่มความสวยหรูให้สาว ๆ มากขึ้นไปอีกด้วยนะคะ

เกร็ดน่ารู้ : สำหรับวันพิเศษของสาว ๆ นอกจากไฮไลต์แล้ว เรายังสามารถเพิ่มความโดดเด่นให้กับตัวเองได้อีก โดยใช้เบสที่มีความแวววาว หรือมีกลิตเตอร์ เพื่อให้ผิวดูเปล่งประกาย แต่ห้ามใช้คู่กับรองพื้นที่มีฟินิชลุคฉ่ำวาวนะคะ เพราะเมื่อเจอกับไฮไลต์แบบแท่งที่ให้ความวาวอยู่แล้วจะยิ่งดูเด่นไปกันใหญ่ หากไม่อยากให้ผิวหน้าวาวจนเกินไป แนะนำให้ใช้รองพื้นแบบแมตต์จะเหมาะกว่าค่ะ

หลังจากรู้จักวิธีการเลือกซื้อกันไปแล้ว คราวนี้เรามาดูกันดีกว่าค่ะว่า มีไฮไลต์แบบแท่งจากแบรนด์ไหนบ้างที่น่าซื้อ แอบกระซิบว่าถ้าใครอยากได้ฟินิชลุคที่หลากหลาย ใช้ได้ทุกโอกาส ควรซื้อแบบที่ฟินิชลุคต่างกันติดตัวไว้สัก 2 แท่ง ส่วนจะมีแบรนด์อะไรบ้าง ไปดูกันค่ะ

เห็นแพ็กเกจแล้วหลายคนอาจจะคุ้นตา เพราะไฮไลต์รุ่นนี้อยู่ในไลน์เดียวกันกับ Shading Stick ตัวดังค่ะ ใครที่เคยหลงรักเฉดดิ้งของ Cezanne มาแล้ว รุ่นนี้ก็มีคุณสมบัติที่คล้ายกัน คือ ให้เนื้อสัมผัสที่สมูธและชุ่มชื้น ไม่ทำให้เป็นคราบ สามารถใช้ทาที่เปลือกตาหรือบริเวณที่แห้งเพื่อให้หน้าดูมิติและมีชีวิตชีวาขึ้นได้


มีส่วนผสมของ Hyaluronic Acid Collagen และมอยส์เจอร์ไรเซอร์ธรรมชาติ ที่มีคุณสมบัติช่วยในการอำพรางรูขุมขนได้ ทำให้ฟินิชลุคของสาว ๆ สมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น ตัวไฮไลต์ติดทนนานในระดับหนึ่ง จากหลายรีวิวต่างบอกว่า เกลี่ยง่าย (แต่แนะนำให้วอร์มที่ผิวก่อน) และกระจายแสงได้ดี ไม่ว่าจะขยับมุมไหนก็เป๊ะไปหมด สามารถหยิบมาใช้เป็นไฮไลต์ใน Everyday Look ได้เลยค่ะ

มาถึงไฮไลต์แบบแท่งที่ได้รับความนิยมอย่างล้นหลามจากแบรนด์ฝั่งเกาหลี ที่ไม่ว่าใครก็ต้องรู้จักแน่นอน รุ่นนี้เหมาะสำหรับผู้ที่เน้นความสะดวกสบายและอยากประหยัดงบในการช้อปปิ้ง เพราะรวมทั้งไฮไลต์และคอนทัวร์มาไว้ในแท่งเดียวกันเรียบร้อยแล้ว มี 3 สีให้เลือกซื้อ มั่นใจได้ว่าคุณจะสามารถหาสีที่เหมาะกับสีผิวได้แน่นอนค่ะ

เมื่อทาไปแล้วจากเนื้อครีมจะเปลี่ยนเป็นสัมผัสแบบแป้ง เนื้อไฮไลต์มีเม็ดสีชัด โทนสีเป็นธรรมชาติ แต่อาจจะไม่ค่อยติดทนมากนัก ตัวไฮไลต์และคอนทัวร์มีหัวตัดแนวเฉียง 24° ซึ่งรับกับรูปหน้าพอดี ทำให้ใช้งานง่ายขึ้น แถมปริมาณก็เพิ่มจากแพ็กเกจเดิม 2 เท่าเลย คุ้มสุด ๆ เหมาะสำหรับซื้อติดโต๊ะเครื่องแป้งไว้มาก ๆ เลยค่ะ

ตามมาด้วยไฮไลต์จากแบรนด์อเมริกาที่ฮอตฮิตไม่แพ้กันค่ะ จากรีวิวของสาว ๆ ส่วนใหญ่บอกว่า เนื้อสัมผัสเรียบเนียน เม็ดสีชัดและสม่ำเสมอ เกลี่ยง่าย และได้โทนสีเป็นธรรมชาติ แม้จะมีสีเดียวที่เข้าไทย แต่โทนสีนี้ก็ค่อนข้างเข้ากับสีผิวของสาวไทยโดยส่วนใหญ่ ดังนั้น ใช้ได้ไม่มีปัญหาแน่นอนค่ะ แถมเนื้อไฮไลต์ติดทนนานในระดับหนึ่ง โดยที่ไม่เป็นคราบระหว่างวันด้วย


นอกจากนี้ ยังปราศจากพาราเบน ซัลเฟต และกลูเตน ใครที่แพ้ง่ายน่าจะถูกใจค่ะ  อย่างไรก็ตาม จากรีวิวของสาว ๆ แนะนำว่า ตอนทาต้องเบามือนิดนึงนะคะ เพราะถ้าปาดหนาไป สีอาจจะไม่แนบสนิทกับหน้าและทำให้ลอกหลุดระหว่างวันได้  เหมาะกับมือใหม่หรือผู้ที่อยากลองซื้อไฮไลต์เป็นแท่งแรก รับรองไม่ผิดหวังค่ะ

ไฮไลต์รุ่นนี้เป็นอีกรุ่นหนึ่งที่น่าสนใจ และได้รับความนิยมอย่างล้นหลามเลยทีเดียว เพราะเป็นแบรนด์ที่ขึ้นชื่อเรื่องคุณภาพอยู่แล้ว ซึ่งในคราวนี้ก็ได้จับไฮไลต์และเฉดดิ้งมาไว้ในแท่งเดียวกัน จึงไม่แปลกที่จะดังเป็นพลุแตก รุ่นนี้มีจุดเด่นอยู่ที่เนื้อเนียน เกลี่ยง่าย เม็ดสีชัด และมีโทนสีที่เป็นธรรมชาติ แถมมีถึง 6 โทนสีให้เลือก สาวผิวขาวหรือผิวแทนก็ใช้ได้ค่ะ


ปลายแท่งหัวเรียวเล็กทำให้ใช้งานง่าย สามารถเข้าถึงพื้นที่เล็ก ๆ อย่างใต้ท้องคิ้วได้สบาย ๆ จึงใช้สร้างมิติและปรับเปลี่ยนรูปหน้าได้ดีเลย สาว ๆ ที่ใช้แล้วต่างติดใจในเรื่องความติดทนนานและสีชัดที่ชัดเจน ช่วยปรับรูปหน้าให้คมชัด อีกทั้งยังใช้งานง่าย พกพาสะดวก ใช้เป็น Everyday Look ได้เลยค่ะ

ไฮไลต์แบบแท่งจากแบรนด์ CLINIQUE รุ่นนี้ เป็นสูตรปราศจากสารเคมีอันตราย ทั้งพาราเบน Phthalate และน้ำหอม จึงอ่อนโยนต่อผิว ไม่ก่อให้เกิดการระคายเคืองง่าย สาว ๆ ที่มีผิวแพ้ง่ายก็ใช้ได้ ตัวไฮไลต์มีเนื้อสัมผัสแบบครีม เกลี่ยง่าย ทาแล้วไม่ดูมันจนเกินไป สีกลมกลืนไปกับผิว สามารถใช้งานได้ทุกวันเลยค่ะ


ไฮไลต์มีโทนสีชมพูที่ดูเป็นธรรมชาติ มีประกายละเอียดที่ใช้แล้วดูสุขภาพดีจากภายใน ไม่หลอกตา ช่วยทำให้ใบหน้าดูมีชีวิตชีวาและมีมิติมากยิ่งขึ้น แถมยังติดทนอีกด้วยค่ะ แต่ก็มีข้อเสีย คือ หากทาทับรองพื้น ตัวไฮไลต์อาจจะไม่ค่อยติดทน ดังนั้น ก่อนแต่งหน้าแนะนำให้บำรุงผิวให้ชุ่มชื้นนิดนึงก่อน เพื่อให้เมคอัพและไฮไลต์ติดผิวมากยิ่งขึ้นค่ะ

ผลิตภัณฑ์ของ NARS รุ่นนี้เป็น Make-up Stick ที่สามารถใช้ได้แบบอเนกประสงค์ทั้งบริเวณดวงตา, ปาก, แก้ม และผิวกาย ทั้งยังมีโทนสีมากมาย ตั้งแต่สีเบจไปจนถึงสีเข้มอย่างสีชมพูหรือสีบรอนซ์เลย สามารถประยุกต์ใช้หลายอย่าง ขึ้นอยู่กับความต้องการของแต่ละคน เนื้อผลิตภัณฑ์ให้เนื้อสัมผัสแบบครีม ที่เนียนละเอียดและเกลี่ยง่าย


มีเม็ดสีแน่น สม่ำเสมอ ทาแล้วไฮไลต์ดูเนียนไปกับผิว มีกลิตเตอร์แบบเนียนละเอียด ให้ความแวววาวอย่างพอเหมาะ ทำให้หน้าดูมีมิติอย่างเป็นธรรมชาติ ไม่ว่าจะทาไปพรีเซนต์งานหรือประชุมก็ไม่สะดุดตาจนเกินไป ที่สำคัญยังสามารถทาทับรองพื้นได้และไม่เป็นคราบระหว่างวันค่ะ

มาถึงไฮไลต์จากแบรนด์ Hi-end กันบ้าง ซึ่งรุ่นนี้เป็นไฮไลต์ที่ออกมาวางขายได้ซักพักหนึ่งแล้ว แต่ก็ยังได้รับความนิยมกันอยู่อย่างต่อเนื่อง ไฮไลต์มีเนื้อละเอียดมาก มีความวาว เล่นแสงสวย ช่วยสร้างมิติให้ใบหน้า จากรีวิวผู้ใช้หลายคนบอกว่า  ใช้แล้วดูแพงและมีระดับ เนื้อสัมผัสก็ลื่น เกลี่ยง่าย ทาทับเมคอัพก็ได้ ไม่เป็นคราบด้วยค่ะ


ถ้าสาว ๆ คนไหนชอบงานไฮไลต์ที่ดูนวล ๆ นัวๆ ต้องชอบรุ่นนี้แน่นอนค่ะ แถมมีให้เลือกถึง 5 สีเลยทีเดียว มีตั้งแต่โทนเบจอมทอง สีชมพู ไปจนถึงสีบรอนซ์ทองเลย ผิวสีไหนก็ใช้ได้แน่นอนค่ะ นอกจากนี้ แพ็กเกจก็ให้ความรู้สึกหรูหรา เป็นสีทองเงา เพิ่มความสวยหรูดูแพงให้แก่ผู้ใช้ แม้ราคาจะสูงไปสักนิด อต่ถ้าใครที่มีงบทุ่มให้กับความสวย ก็จัดไปเลยค่ะ

อีกแบรนด์เครื่องสำอาง Hi-End ที่มีเชื่อเสียงจากไฮไลต์และคอนทัวร์มาอย่างยาวนาน ไฮไลต์รุ่นนี้มีความพิเศษตรงที่มีการผสมผสานส่วนผสมจากธรรมชาติอย่าง ขิง อโวคาโดและเมลอน ให้ฟินิชลุคแบบฉ่ำวาว เปล่งประกาย แต่ยังคงเป็นความวาวที่ดูธรรมชาติอยู่ มีกลิตเตอร์ที่ละเอียด ช่วยเพิ่มมิติให้ใบหน้ามากยิ่งขึ้น

จากรีวิวผู้ใช้จริงหลายคนบอกว่า ใช้แล้วดูสุขภาพดีเหมือนดื่มน้ำวันละ 8 แก้วและนอนครบ 8 ชั่วโมงเลยล่ะค่ะ แต่ตอนใช้ต้องค่อย ๆ แตะนะคะ ถ้ามือหนักจากสวยเป๊ะอาจจะกลายเป็นโป๊ะแทน แถมแพ็กเพจก็น่ารัก ทำให้อยากหยิบมาใช้ทุกวันเลยแต่หากเทียบราคากับปริมาณแล้วอาจจะดูราคาสูงไปสักนิดนึง สาว ๆ วัยทำงานคนไหนสนใจ รีบสอยเลยค่ะ

ไฮไลต์รุ่นนี้ให้ฟินิชลุคแบบฉ่ำวาว เนื้อสัมผัสบางเบา เกลี่ยง่าย เรียบเนียนไปกับผิว  ดูเป็นธรรมชาติ จากรีวิวผู้ใช้จริงพบว่า สามารถทาได้ทั้งก่อนและหลังลงแป้งฝุ่น ไม่ว่าจะทาตอนไหนก็ไม่เป็นคราบ เนื้อไฮไลต์มีประกายละเอียดที่ไม่ดูแวววาวจนเกินไป ทาแล้วยังดูเป็นผิวธรรมชาติอยู่ ใครที่อยากใช้ตอนออกงานกลางคืน หรือในโอกาสพิเศษก็เหมาะทีเดียว เพราะช่วยทำให้หน้าดูมีเปล่งประกายมีเสน่ห์มากขึ้น


ไฮไลต์รุ่นนี้ทางแบรนด์ได้ออกแบบมาเป็นแท่งสามเหลี่ยม จึงทำให้ควบคุมบริเวณผิวหน้าที่จะทาได้ง่าย รวมถึงแพ็กเกจที่เป็นสีเงินแบบเงางามก็เพิ่มความน่าใช้เข้าไปอีก และยังมีโทนสีให้เลือกถึง 5 สีเลยทีเดียว ไม่ว่าจะผิวโทนสีอะไรก็สามารถใช้ไฮไลต์รุ่นนี้ได้ค่ะ ทั้งดีไซน์ดี คุณภาพเริ่ดขนาดนี้ สาว ๆ คนไหนที่อยากได้ไฮไลต์ดี ๆ ซักชิ้น แนะนำเลยค่ะ

มาต่อกันด้วยแบรนด์ของนักร้องสาว Rihanna ที่ออกไฮไลต์แบบแท่งคุณภาพดีที่เป็นกระแสมาอย่างต่อเนื่องและยาวนาน ต้องบอกเลยว่ารุ่นนี้เป็นหนึ่งในไลน์ Match Stix ที่ใช้งานได้สารพัดประโยชน์ เป็นได้ทั้งไฮไลต์ บลัชออน และบรอนเซอร์ได้ในแท่งเดียว โดยจุดเด่นของเจ้าตัวนี้อยู่ที่เนื้อเนียน เกลี่ยง่าย สีชัด และมีโทนสีหลากหลาย สาวผิวสีเข้มก็ยังได้ แถมยังติดทนนานด้วย


นอกจากนี้ เนื้อไฮไลต์ยังมีกลิตเตอร์ที่ละเอียด ให้ลุคโกลว์แบบวิ้ง ๆ เหมาะกับใช้ออกงานตอนกลางคืนหรือในโอกาสพิเศษต่าง ๆ รีวิวจากผู้ใช้จริงแนะนำว่า ให้ลองทาแบบเบา ๆ มือดูก่อนนะคะ เพราะกลิตเตอร์ค่อนข้างแน่นเลยทีเดียว ถ้าเผลอปาดมากเกินไป หน้าอาจจะดูวาวจนหลอกตาเกินไปได้ค่ะ

ไฮไลต์แบบแท่งมีคุณสมบัติที่น่าสนใจหลายอย่างเลยใช่ไหมล่ะคะ แต่ถ้าใครอยากพิถีพิถันกับการแต่งหน้ามากกว่านี้ แนะนำให้เลือกซื้อไฮไลต์ที่มีเนื้อสัมผัสแบบอื่นใช้ควบคู่ไปด้วย เพื่อให้ได้เมคอัพลุคที่สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น เนื้อแบบไหนเหมาะกับใครบ้าง ไปดูกันค่ะ

ไฮไลต์แบบฝุ่นจะมีลักษณะคล้ายกับบลัชออนเลยค่ะ ทำให้ใช้งานง่าย ถ้าปัดพลาดก็สามารถแก้ไขได้ หากเข้มเกินไปก็แค่ใช้แป้งฝุ่นปัดทับเท่านั้น ทำให้เหมาะกับมือใหม่มากเป็นพิเศษ นอกจากนี้ ยังสามารถปัดซ้ำทับแป้งได้ คุณจึงใช้ปัดเพิ่มระหว่างวันได้หากไฮไลต์จางลง


สำหรับผู้ที่หน้าแห้งเนื่องจากความชุ่มชื้นในผิวไม่เพียงพอ อาจจะทำให้ไฮไลต์ที่เป็นเนื้อแป้งหลุดหรือลอยออกมากได้ง่ายค่ะ ดังนั้น สาวผิวแห้งแต่อยากใช้ไฮไลต์แบบนี้ แนะนำให้ใช้แตะแค่นิดเดียวเท่านั้นนะคะ

ไฮไลต์แบบเนื้อครีมและลิควิดนั้น ถือว่าเป็นไอเท็มที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้สาวผิวแห้งที่ดีทีเดียวค่ะ นอกจากจะเกลี่ยสีง่ายแล้ว ยังให้ฟินิชลุคที่แวววาวมากกว่าแบบฝุ่น เพราะมีปริมาณของน้ำมันเยอะกว่า เนื่องจากไฮไลต์ประเภทนี้จะมีเนื้อเหลวและไหลง่าย ดังนั้น เวลาทาจึงควรระมัดระวังเรื่องปริมาณนิดนึงค่ะ แนะนำให้ค่อย ๆ แตะทีละน้อย ๆ ก่อนแล้วค่อยเพิ่มจะดีที่สุดค่ะ

เป็นอย่างไรกันบ้างคะ หลังจาดกอ่านบทความนี้จบไป สาว ๆ ได้ไฮไลต์แบบแท่งที่ต้องการหรือยังคะ ? หากใครที่ยังลังเลอยู่ ไม่รู้จะซื้อแท่งไหนดี แนะนำให้เลือกมาสองแท่งเลยค่ะ แท่งหนึ่งสำหรับวันสบาย ๆ อีกแท่งก็ใช้ในวันทำงานได้ แต่อันดับแรกให้เลือกจากเฉดสีที่เข้ากับผิวก่อน ต่อมาให้ดูฟินิชลุคและตามด้วยโอกาสในการใช้งาน เพื่อให้คุณได้ลุคที่สวยสมบูรณ์แบบ เหมาะกับตัวเองและกาลเทศะมากที่สุดค่ะ


เมื่อได้ไฮไลต์ไปแล้ว อย่าลืมซื้อคอนทัวร์หรือเฉดดิ้งเพิ่มนะคะ เพราะเมคอัพ 2 ชิ้นนี้เป็นของที่ต้องใช้ควบคู่กัน ไฮไลต์จะทำหน้าที่ "เพิ่มแสง" ช่วยให้จุดสำคัญที่ต้องการเน้นดูสูงหรือโดดเด่นขึ้นมา แต่เฉดดิ้งจะทำหน้าที่ "ลดแสง" ทำให้บริเวณนั้น ๆ ดูลึกและเล็กลง เมื่อใช้ด้วยกันแล้วจะช่วยให้ใบหน้าของคุณดูมีมิติ สวยเป๊ะมากยิ่งขึ้นค่ะ