ส่วนใหญ่เรามักจะไม่ค่อยใส่ใจวิธีการเลือกซื้อปากกาไวท์บอร์ดกันใช่ไหมคะ เพราะเห็นว่าใช้แค่ชั่วครั้งชั่วคราว และไม่ได้สัมผัสกับร่างกายของเราโดยตรงเลยไม่ต้องระวังมากนัก แต่ลองคิดดูนะคะว่าใน 1 วันเราต้องใช้ปากกาไวท์บอร์ดนานแค่ไหน เมื่อคำนวนเป็นอาทิตย์ เป็นเดือน และเป็นปีแล้วนานเท่าไร นั่นคือระยะเวลาที่เราต้องสูดกลิ่นเคมีจากปากกา โดยเฉพาะเหล่าคุณครูหรือติวเตอร์ทั้งหลายที่ต้องสอนอยู่หน้าไวท์บอร์ดเป็นเวลานานต่อวัน และยิ่งใครติดนิสัยชอบใช้มือลบคำผิดแทนแปรงด้วยแล้ว คุณยิ่งต้องใส่ใจการเลือกซื้อมากเป็นพิเศษเลยค่ะ
ในวันนี้ผู้เขียนจึงรวบรวม “วิธีการเลือกปากกาไวท์บอร์ด” มาจากบทความแนะนำของญี่ปุ่น และจัดอันดับสินค้าที่น่าสนใจเป็น “8 อันดับสินค้ายอดฮิตขายดี” ให้เพื่อน ๆ ลองไปเลือกซื้อปากกาที่เหมาะกับการใช้งานและปลอดภัยกับสุขภาพกันดู ซึ่งจะมีเนื้อหาอย่างไรบ้าง ไปอ่านกันเลยค่ะ
หัวใจของการเลือกผลิตภัณฑ์นี้มี 5 อย่างด้วยกัน ได้แก่ “เฉดสี”, “ความหนาของเส้น”, “สามารถเติมหมึกได้ไหม”, “เป็นแบบกดหรือปลอก” และ “มี Magnet หรือคลิปหนีบไหม” ส่วนแต่ละข้อมีหลักการในการเลือกซื้ออย่างไร ไปอ่านกันเลยค่ะ
หลายคนอาจจะคิดว่าปากกาไวท์บอร์ดคงมีไม่กี่สี ก็แค่น้ำเงิน ดำ และแดง แต่จริง ๆ แล้วหลายแบรนด์ได้ผลิตออกมาหลายสีเลยค่ะ ดังนั้นสำหรับใครที่ไม่รู้ว่าจะซื้อสีไหนดี แนะนำว่าเบื้องต้นควรซื้อสีเบสิคอย่างน้ำเงิน, ดำ และแดงดีกว่า เพราะเป็นสีพื้นฐานที่ใช้ได้ทั้งงานทางการและงานอเนกประสงค์ทั่วไป
ในทางตรงกันข้ามสำหรับใครที่ต้องการสีมากกว่านั้น เพื่อการเขียนเนื้อหาที่มีหลายตัวแปรหรือแม้แต่การวาดรูปทางชีววิทยา แนะนำให้เลือกซื้อเซ็ต 6 หรือ 12 สีจะดีกว่าค่ะ เพราะซื้อครั้งเดียวคุ้มค่า แถมยังทำให้คนเข้าใจสิ่งที่เราเขียนง่ายขึ้น
ความหนาของเส้นมี 3 ระดับด้วยกันขึ้นอยู่กับขนาดหัวปากกา ได้แก่ “หัวเล็ก”, “หัวกลาง” และ “หัวใหญ่” แต่ละหัวก็เหมาะกับการใช้งานที่ต่างกันไป อย่างหัวเส้นเล็กจะเหมาะกับการเขียนงานแผ่นเล็ก ๆ ซึ่งนิยมใช้ในบ้าน แต่ถ้าคุณต้องการใช้เขียนไวท์บอร์ดของโรงเรียนหรือออฟฟิศต้องเลือกเส้นแบบหนาหรือหัวใหญ่แทน เพราะจะเขียนง่ายกว่าและขนาดตัวอักษรยังสมดุลกับกระดาน ทำให้ผู้อ่านอ่านได้ง่ายขึ้น
นอกจากนี้หัวปากกาเองก็มีลักษณะให้เลือกถึง 2 ประเภท ได้แก่ “หัวตัด” ซึ่งให้เส้นคล้ายกับปากกาไฮไลท์ เหมาะกับการเขียนข้อความที่เป็นทางการ อักษรตัวเหลี่ยม เขียนบอร์ดประกาศ แต่จะอาจจะต้องใช้ทักษะในการเขียนสักหน่อยและใช้เวลากว่าจะคุ้นชินค่ะ และ “หัวกลม” ที่ใช้งานได้ง่ายกว่า เหมาะกับการใช้ในห้องเรียน เพื่อน ๆ ลองเลือกให้เหมาะกับการใช้งานหลักของตัวเองดูนะคะ
จะว่าไปแล้วปากกาไวท์บอร์ดก็มีช่วงราคาที่ค่อนข้างกว้างเหมือนกันค่ะ ตั้งแต่แท่งละหลักสิบไปจนถึงหลักร้อยต้น ๆ เลยก็มี ซึ่งสำหรับแบบที่มีราคาแพง เราคงไม่อยากเสียเงินซื้อเปลี่ยนหลาย ๆ ครั้งใช่ไหมคะ ดังนั้นควรเช็คให้ดีเสียก่อนว่าปากกานั้น ๆ สามารถเติมหมึกได้ไหม และอย่าลืมตรวจด้วยว่าขั้นตอนการเติมหมึกยุ่งยากอย่างไรบ้างหรือมีที่สูบน้ำหมึกมาให้ด้วยหรือเปล่านะคะ เวลาใช้งานจะได้ไม่ยุ่งยาก
อย่างไรก็ตามไม่ได้หมายความว่าแบบที่ใช้แล้วทิ้งจะไม่ดีนะคะ เพราะด้วยคุณสมบัติดังกล่าวทำให้ปากกาสามารถคงประสิทธิภาพได้ตลอดการใช้งาน ดังนั้นใครที่ไม่อยากเสี่ยงดวงว่าปากกาจะพังเมื่อไร ใช้แล้ววันไหนเศษผ้าจากหัวปากกาจะยุ่ยจนกลายเป็นฝุ่นเปรอะเปื้อน แนะนำให้ซื้อแบบนี้มาใช้เลยค่ะ
ปากกาไวท์บอร์ดมีรูปแบบการเปิดใช้งาน 2 แบบค่ะ คือ “แบบกด” และ “แบบปลอก” โดยแบบแรกจะใช้งานเหมือนกับปากกาลูกลื่น ทำให้สะดวกในการเขียน เพราะไม่ต้องคอยถือปลอกปากกา แต่ส่วนใหญ่จะมีหัวขนาดกลางและมีสีให้เลือกน้อย แตกต่างจากแบบปลอกที่มีสีและขนาดหัวให้เลือกหลากหลายมากกว่า แต่ข้อเสียคือเวลาเปิดปิดเร็ว ๆ มักจะเลอะมือง่าย
สำหรับกระดานไวท์บอร์ดของโรงเรียนหรือสำนักงานมักจะมีขนาดใหญ่อยู่แล้ว จึงมีพื้นที่สำหรับวางปากกาและแปรงลบ แต่สำหรับไวท์บอร์ดขนาดเล็กที่ติดตามบ้านส่วนใหญ่จะไม่มีน่ะสิคะ ทำให้ปากกาไวท์บอร์ดถูกเก็บไม่เป็นที่จนอาจหายได้บ่อย ๆ แนะนำให้ซื้อปากกาที่มี Magnet หรือแม่เหล็กติดตู้เย็นนั่นเองค่ะ หลังจากใช้เสร็จจะได้ติดกับไวท์บอร์ดหรือพื้นที่ที่เห็นง่าย ๆ อย่างตู้เย็นเสียเลย แค่นี้ก็จะแก้ปัญหาดังกล่าวได้แล้วค่ะ
หลังจากเรียนรู้วิธีการเลือกไปแล้ว เราไปอ่านข้อมูลของสินค้าที่น่าสนใจกันดีกว่าค่ะ โดยผู้เขียนได้สรุปคุณสมบัติหลัก ๆ และรีวิวของผู้ที่ใช้งานจริงมาให้ทุกคนได้ตัดสินใจเลือกซื้อกัน ส่วนจะมียี่ห้อไหนบ้าง ไปดูกันเลยค่ะ
ปากกาไวท์บอร์ดที่มีหมึกแบบ Alcohol-based จึงช่วยให้ลบง่าย เพียงแค่ใช้ผ้าแห้งหรือกระดาษอเนกประสงค์ มาพร้อมระบบน้ำหมึกที่ถูกออกแบบมาให้มีอายุการใช้งานนานและให้เส้นที่น้ำหนักเท่ากันเสมอตลอดเส้น จัดชุดมาให้ถึง 6 สี ครบถ้วนทั้งสีพื้นฐานและสีสดใส หลายคนที่ใช้ต่างพึงพอใจในคุณภาพ แต่อาจจะมีบ่นเรื่องกลิ่นบ้าง
อีกหนึ่งยี่ห้อที่น่าสนใจด้วยปริมาณน้ำหมึกที่เยอะสามารถเขียนได้ถึง 320 เมตร ขณะใช้ไม่มีกลิ่นเหม็นมาคอยกวนใจ พร้อมลบออกง่ายด้วยกระดาษทิชชู่ แท่งปากกาจับถนัดมือ นอกจากนี้ยังเขียนลื่นไม่มีสะดุด ซึ่งเมื่อเทียบกับราคาแล้วจึงทำให้เหมาะกับใช้ในสำนักงานและโรงเรียนสุด ๆ เลยค่ะ
ปากกาไวท์บอร์ดคุณภาพดี น้ำหมึกปราศจากสาร Xylene และถูกคิดค้นมาให้เช็ดออกง่ายหลังแห้ง นอกจากนี้ยังออกแบบฝาครอบให้สามารถป้องกันหมึกแห้งแม้ถูกทิ้งไว้นาน หลายคนที่ซื้อไปต่างชื่นชอบในคุณภาพ ซึ่งเมื่อหารเฉลี่ยต่อแท่งแล้วเหลือราคาแท่งละ 20 บาทเองค่ะ ถือว่าคุ้มสุด ๆ เลย
ใครที่ตามหาปากกาไวท์บอร์ดที่ไม่มีกลิ่นเหม็น ยี่ห้อนี้เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจค่ะ เพราะเป็นสูตรไม่มีกลิ่นและปราศจาก Xylene เนื้อหมึกเขียนลื่นและให้เส้นที่คมชัด ได้รับการรับรองจากฉลากเขียวของประเทศไทย โดยมีหลายสีให้เลือกซื้อ ตอบโจทย์พื้นฐานของผู้ใช้ได้ และที่สำคัญยังมีราคาถูก
แบรนด์นี้เขาไม่ได้มีแต่ปากกาลูกลื่นนะจ๊ะ ปากกาไวท์บอร์ดเขาก็มี โดยตัวด้ามปากกาทำมาจากอะลูมิเนียม ออกแบบมาให้มีขนาดและดีไซน์จับถนัดมือ มาพร้อมกับปลอกพลาสติก (ไม่มีคลิปหนีบ) และปริมาณน้ำหมึกสุดคุ้มสามารถเขียนได้ถึง 320 เมตร นอกจากนี้ยังลบออกง่ายด้วยกระดาษทิชชู่ จนหลายคนการันตีว่าใช้งานดีจริง ๆ
ปากกาไวท์บอร์ดยี่ห้อนี้พิเศษด้วยน้ำหมึกคุณภาพดีผลิตในประเทศเยอรมัน ปราศจากสาร Xylene ที่เป็นอันตราย ผ่านเทคโนโลยี Liquid Ink ส่งน้ำหมึกตรงถึงหัวปากกา ออกแบบมาให้สามารถเปลี่ยนหมึกง่าย ไม่เลอะเทอะ นอกจากนี้ยังเขียนลื่นไม่มีสะดุด ซึ่งเมื่อเทียบกับราคาแล้วถือว่าคุ้มค่ามากเลยค่ะ
ด้วยหัวปากกาไฟเบอร์ป้องกันการเปื่อยยุ่ย จึงทำให้ปากกาไวท์บอร์ดจาก Artline แท่งนี้แข็งแรงคงทนและไม่ทำลายผิวกระดาน มาพร้อมน้ำหมึกสูตรพิเศษไม่มีกลิ่นฉุนและไม่มีสารพิษ ใคร ๆ ก็บอกว่าเขียนลื่น เหมาะกับผู้ที่ต้องใช้ปากกาไวท์บอร์ดครั้งละนาน ๆ เป็นประจำ
อันดับที่ 1 ต้องยกให้ยี่ห้อนี้เขาเลยค่ะ เพราะน้ำหมึกคุณภาพดีไร้กลิ่นฉุน ปราศจากสาร Xylene และ Toluen ที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ จึงเขียนลื่นและให้น้ำหนักเสมอกันตลอดทั้งเส้น มีให้เลือกทั้งหัวตัด หัวกลม ครอบคลุมทุกความต้องการ อย่างไรก็ตามถ้าเขียนติดต่อกันเป็นเวลานานมาก แนะนำให้สลับไปใช้แท่งอื่นบ้างนะคะ เพราะหัวปากกาจะเสียหาย ทำให้อายุการใช้งานสั้นลงได้
เชื่อว่าทุกคนต้องเคยเจอเหตุการณ์ลบข้อความที่เขียนไปแล้วไม่ออกหรือออกยาก แนะนำให้รอสักครู่หนึ่งแล้วค่อยลบอีกครั้งค่ะ เพราะธรรมชาติของปากกาไวท์บอร์ดจะลบออกได้เมื่อทิ้งหมึกให้ระเหยแล้วสักครู่หนึ่ง ดังนั้นการลบข้อความทันทีที่เขียนจะทำให้หมึกที่ยังไม่แห้งดีเลอะเป็นปื้น ซึ่งรอยเหล่านี้หากถูกทิ้งไว้นานก็จะยิ่งลบออกยาก
อีกหนึ่งปัญหาที่มักจะเจอกันบ่อยคือ “หมึกออกไม่ดี” หรือ “หมึกออกมาเยอะเกิน” นั่นอาจเพราะก่อนหน้านั้นคุณวางปากกาไม่ถูกค่ะ ควรจะวางปากกาในแนวนอนเพื่อรักษาความสมดุลของระดับน้ำหมึกในปากกาให้เท่ากันตลอดทั้งด้าม ถ้าจับตั้งด้านใดด้านหนึ่งจะทำให้สมดุลน้ำหมึกเสีย เวลาเขียนจึงมีปัญหา
ไม่น่าเชื่อว่าแค่ปากกาเล็ก ๆ แท่งนี้จะมีอะไรมากกว่าที่เราคิด ทั้งวิธีการเลือกซื้อและกลไกการใช้งานต่าง ๆ ก่อนการซื้อสินค้าไม่ใช่แค่ปากกาไวท์บอร์ดจึงควรศึกษารายละเอียดของเขาให้ดีเสียก่อนนะคะ จะได้ใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพและตอบโจทย์ของเรามากที่สุด
สำหรับวันนี้ผู้เขียนคงต้องลากันไปก่อน แต่ถ้าใครอยากอ่านบทความแนะนำเครื่องเขียนชิ้นอื่น ๆ กันต่อ สามารถเลือกอ่านในหมวด DIY, Tools ได้เลยค่ะ ในเว็บไซต์ของเรามีแนะนำไว้หลายอย่างเลย