จัด 5 อันดับ ปากกาไวท์บอร์ด ที่ซื้อแล้วไม่ผิดหวัง อัพเดทล่าสุดปี 2567

ช้อปก่อนใคร คอลเลคชั่นใหม่ทุกแบรนด์ โปรสุดปัง ให้คุณช้อปสุดฟิน ชี้เป้าโปรโมชั่นสุดยิ่งใหญ่ เทศกาลส่วนลดให้กับลูกค้าสุดคุ้ม วันนี้มาแนะนำร้านออนไลน์ที่มีสินค้ามากมายให้เลือก เหมาะคนยุคใหม่มากๆ ที่เราไม่ต้องออกไปซื้อของข้างนอก
วันนี้ถ้าหากท่านสนใจ ราคาที่ไม่แพง เราแนะนำเลยเจ้านี้ ปากกาไวท์บอร์ด  สินค้าออนไลน์  ราคาพิเศษส่งให้คุณลูกค้าถึงหน้าบ้าน สั่ง ปากกาไวท์บอร์ด  ไป ราคาถูกจนไม่น่าเชื่อ สินค้าใส่ซองกันกระแทกมาตอนจัดส่งให้ด้วย ส่งเร็วทันใจ คุณภาพเยี่ยมพอดีเห็น ราคาน่าจะลดลง ซื้อเลย สินค้าไม่เสียหาย มีคุณภาพ จัดส่งรวดเร็ว คุณภาพเกินราคา ตอนนี้ลองใช้มาซักพักใช้ได้ดี ไม่มีปัญหา

     
หากคุณกำลังมองหาปากกาไวท์บอร์ดพร้อมฟังก์ชั่นการใช้งานที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ได้หลากหลาย เราขอแนะนำให้รู้จักกับนวัตกรรมปากกาไวท์บอร์ดชั้นเลิศจากแบรนด์ผู้ผลิตที่คร่ำวอดอยู่ในวงการ โดยแต่ละชนิดมีทั้งแบบ ปากกาไวท์บอร์ด ซึ่งวันนี้ทางเราจึงจัดอันดับ แนะนำ ปากกาไวท์บอร์ด ที่ตอบโจทย์กับตัวคุณมาให้เลือกกันแล้วดังนี้

ส่วนใหญ่เรามักจะไม่ค่อยใส่ใจวิธีการเลือกซื้อปากกาไวท์บอร์ดกันใช่ไหมคะ เพราะเห็นว่าใช้แค่ชั่วครั้งชั่วคราว และไม่ได้สัมผัสกับร่างกายของเราโดยตรงเลยไม่ต้องระวังมากนัก แต่ลองคิดดูนะคะว่าใน 1 วันเราต้องใช้ปากกาไวท์บอร์ดนานแค่ไหน เมื่อคำนวนเป็นอาทิตย์ เป็นเดือน และเป็นปีแล้วนานเท่าไร นั่นคือระยะเวลาที่เราต้องสูดกลิ่นเคมีจากปากกา โดยเฉพาะเหล่าคุณครูหรือติวเตอร์ทั้งหลายที่ต้องสอนอยู่หน้าไวท์บอร์ดเป็นเวลานานต่อวัน และยิ่งใครติดนิสัยชอบใช้มือลบคำผิดแทนแปรงด้วยแล้ว คุณยิ่งต้องใส่ใจการเลือกซื้อมากเป็นพิเศษเลยค่ะ

ในวันนี้ผู้เขียนจึงรวบรวม “วิธีการเลือกปากกาไวท์บอร์ด” มาจากบทความแนะนำของญี่ปุ่น และจัดอันดับสินค้าที่น่าสนใจเป็น “8 อันดับสินค้ายอดฮิตขายดี” ให้เพื่อน ๆ ลองไปเลือกซื้อปากกาที่เหมาะกับการใช้งานและปลอดภัยกับสุขภาพกันดู ซึ่งจะมีเนื้อหาอย่างไรบ้าง ไปอ่านกันเลยค่ะ
หัวใจของการเลือกผลิตภัณฑ์นี้มี 5 อย่างด้วยกัน ได้แก่ “เฉดสี”, “ความหนาของเส้น”, “สามารถเติมหมึกได้ไหม”, “เป็นแบบกดหรือปลอก” และ “มี Magnet หรือคลิปหนีบไหม” ส่วนแต่ละข้อมีหลักการในการเลือกซื้ออย่างไร ไปอ่านกันเลยค่ะ
หลายคนอาจจะคิดว่าปากกาไวท์บอร์ดคงมีไม่กี่สี ก็แค่น้ำเงิน ดำ และแดง แต่จริง ๆ แล้วหลายแบรนด์ได้ผลิตออกมาหลายสีเลยค่ะ ดังนั้นสำหรับใครที่ไม่รู้ว่าจะซื้อสีไหนดี แนะนำว่าเบื้องต้นควรซื้อสีเบสิคอย่างน้ำเงิน, ดำ และแดงดีกว่า เพราะเป็นสีพื้นฐานที่ใช้ได้ทั้งงานทางการและงานอเนกประสงค์ทั่วไป
ในทางตรงกันข้ามสำหรับใครที่ต้องการสีมากกว่านั้น เพื่อการเขียนเนื้อหาที่มีหลายตัวแปรหรือแม้แต่การวาดรูปทางชีววิทยา แนะนำให้เลือกซื้อเซ็ต 6 หรือ 12 สีจะดีกว่าค่ะ เพราะซื้อครั้งเดียวคุ้มค่า แถมยังทำให้คนเข้าใจสิ่งที่เราเขียนง่ายขึ้น
ความหนาของเส้นมี 3 ระดับด้วยกันขึ้นอยู่กับขนาดหัวปากกา ได้แก่ “หัวเล็ก”, “หัวกลาง” และ “หัวใหญ่” แต่ละหัวก็เหมาะกับการใช้งานที่ต่างกันไป อย่างหัวเส้นเล็กจะเหมาะกับการเขียนงานแผ่นเล็ก ๆ ซึ่งนิยมใช้ในบ้าน แต่ถ้าคุณต้องการใช้เขียนไวท์บอร์ดของโรงเรียนหรือออฟฟิศต้องเลือกเส้นแบบหนาหรือหัวใหญ่แทน เพราะจะเขียนง่ายกว่าและขนาดตัวอักษรยังสมดุลกับกระดาน ทำให้ผู้อ่านอ่านได้ง่ายขึ้น
นอกจากนี้หัวปากกาเองก็มีลักษณะให้เลือกถึง 2 ประเภท ได้แก่ “หัวตัด” ซึ่งให้เส้นคล้ายกับปากกาไฮไลท์ เหมาะกับการเขียนข้อความที่เป็นทางการ อักษรตัวเหลี่ยม เขียนบอร์ดประกาศ แต่จะอาจจะต้องใช้ทักษะในการเขียนสักหน่อยและใช้เวลากว่าจะคุ้นชินค่ะ และ “หัวกลม” ที่ใช้งานได้ง่ายกว่า เหมาะกับการใช้ในห้องเรียน เพื่อน ๆ ลองเลือกให้เหมาะกับการใช้งานหลักของตัวเองดูนะคะ
จะว่าไปแล้วปากกาไวท์บอร์ดก็มีช่วงราคาที่ค่อนข้างกว้างเหมือนกันค่ะ ตั้งแต่แท่งละหลักสิบไปจนถึงหลักร้อยต้น ๆ เลยก็มี ซึ่งสำหรับแบบที่มีราคาแพง เราคงไม่อยากเสียเงินซื้อเปลี่ยนหลาย ๆ ครั้งใช่ไหมคะ ดังนั้นควรเช็คให้ดีเสียก่อนว่าปากกานั้น ๆ สามารถเติมหมึกได้ไหม และอย่าลืมตรวจด้วยว่าขั้นตอนการเติมหมึกยุ่งยากอย่างไรบ้างหรือมีที่สูบน้ำหมึกมาให้ด้วยหรือเปล่านะคะ เวลาใช้งานจะได้ไม่ยุ่งยาก
อย่างไรก็ตามไม่ได้หมายความว่าแบบที่ใช้แล้วทิ้งจะไม่ดีนะคะ เพราะด้วยคุณสมบัติดังกล่าวทำให้ปากกาสามารถคงประสิทธิภาพได้ตลอดการใช้งาน ดังนั้นใครที่ไม่อยากเสี่ยงดวงว่าปากกาจะพังเมื่อไร ใช้แล้ววันไหนเศษผ้าจากหัวปากกาจะยุ่ยจนกลายเป็นฝุ่นเปรอะเปื้อน แนะนำให้ซื้อแบบนี้มาใช้เลยค่ะ
ปากกาไวท์บอร์ดมีรูปแบบการเปิดใช้งาน 2 แบบค่ะ คือ “แบบกด” และ “แบบปลอก” โดยแบบแรกจะใช้งานเหมือนกับปากกาลูกลื่น ทำให้สะดวกในการเขียน เพราะไม่ต้องคอยถือปลอกปากกา แต่ส่วนใหญ่จะมีหัวขนาดกลางและมีสีให้เลือกน้อย แตกต่างจากแบบปลอกที่มีสีและขนาดหัวให้เลือกหลากหลายมากกว่า แต่ข้อเสียคือเวลาเปิดปิดเร็ว ๆ มักจะเลอะมือง่าย
สำหรับกระดานไวท์บอร์ดของโรงเรียนหรือสำนักงานมักจะมีขนาดใหญ่อยู่แล้ว จึงมีพื้นที่สำหรับวางปากกาและแปรงลบ แต่สำหรับไวท์บอร์ดขนาดเล็กที่ติดตามบ้านส่วนใหญ่จะไม่มีน่ะสิคะ ทำให้ปากกาไวท์บอร์ดถูกเก็บไม่เป็นที่จนอาจหายได้บ่อย ๆ แนะนำให้ซื้อปากกาที่มี Magnet หรือแม่เหล็กติดตู้เย็นนั่นเองค่ะ หลังจากใช้เสร็จจะได้ติดกับไวท์บอร์ดหรือพื้นที่ที่เห็นง่าย ๆ อย่างตู้เย็นเสียเลย แค่นี้ก็จะแก้ปัญหาดังกล่าวได้แล้วค่ะ
หลังจากเรียนรู้วิธีการเลือกไปแล้ว เราไปอ่านข้อมูลของสินค้าที่น่าสนใจกันดีกว่าค่ะ โดยผู้เขียนได้สรุปคุณสมบัติหลัก ๆ และรีวิวของผู้ที่ใช้งานจริงมาให้ทุกคนได้ตัดสินใจเลือกซื้อกัน ส่วนจะมียี่ห้อไหนบ้าง ไปดูกันเลยค่ะ
ปากกาไวท์บอร์ดที่มีหมึกแบบ Alcohol-based จึงช่วยให้ลบง่าย เพียงแค่ใช้ผ้าแห้งหรือกระดาษอเนกประสงค์ มาพร้อมระบบน้ำหมึกที่ถูกออกแบบมาให้มีอายุการใช้งานนานและให้เส้นที่น้ำหนักเท่ากันเสมอตลอดเส้น จัดชุดมาให้ถึง 6 สี ครบถ้วนทั้งสีพื้นฐานและสีสดใส หลายคนที่ใช้ต่างพึงพอใจในคุณภาพ แต่อาจจะมีบ่นเรื่องกลิ่นบ้าง
อีกหนึ่งยี่ห้อที่น่าสนใจด้วยปริมาณน้ำหมึกที่เยอะสามารถเขียนได้ถึง 320 เมตร ขณะใช้ไม่มีกลิ่นเหม็นมาคอยกวนใจ พร้อมลบออกง่ายด้วยกระดาษทิชชู่ แท่งปากกาจับถนัดมือ นอกจากนี้ยังเขียนลื่นไม่มีสะดุด ซึ่งเมื่อเทียบกับราคาแล้วจึงทำให้เหมาะกับใช้ในสำนักงานและโรงเรียนสุด ๆ เลยค่ะ
ปากกาไวท์บอร์ดคุณภาพดี น้ำหมึกปราศจากสาร Xylene และถูกคิดค้นมาให้เช็ดออกง่ายหลังแห้ง นอกจากนี้ยังออกแบบฝาครอบให้สามารถป้องกันหมึกแห้งแม้ถูกทิ้งไว้นาน หลายคนที่ซื้อไปต่างชื่นชอบในคุณภาพ ซึ่งเมื่อหารเฉลี่ยต่อแท่งแล้วเหลือราคาแท่งละ 20 บาทเองค่ะ ถือว่าคุ้มสุด ๆ เลย
ใครที่ตามหาปากกาไวท์บอร์ดที่ไม่มีกลิ่นเหม็น ยี่ห้อนี้เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจค่ะ เพราะเป็นสูตรไม่มีกลิ่นและปราศจาก Xylene เนื้อหมึกเขียนลื่นและให้เส้นที่คมชัด ได้รับการรับรองจากฉลากเขียวของประเทศไทย โดยมีหลายสีให้เลือกซื้อ ตอบโจทย์พื้นฐานของผู้ใช้ได้ และที่สำคัญยังมีราคาถูก
แบรนด์นี้เขาไม่ได้มีแต่ปากกาลูกลื่นนะจ๊ะ ปากกาไวท์บอร์ดเขาก็มี โดยตัวด้ามปากกาทำมาจากอะลูมิเนียม ออกแบบมาให้มีขนาดและดีไซน์จับถนัดมือ มาพร้อมกับปลอกพลาสติก (ไม่มีคลิปหนีบ) และปริมาณน้ำหมึกสุดคุ้มสามารถเขียนได้ถึง 320 เมตร นอกจากนี้ยังลบออกง่ายด้วยกระดาษทิชชู่ จนหลายคนการันตีว่าใช้งานดีจริง ๆ
ปากกาไวท์บอร์ดยี่ห้อนี้พิเศษด้วยน้ำหมึกคุณภาพดีผลิตในประเทศเยอรมัน ปราศจากสาร Xylene ที่เป็นอันตราย ผ่านเทคโนโลยี Liquid Ink ส่งน้ำหมึกตรงถึงหัวปากกา ออกแบบมาให้สามารถเปลี่ยนหมึกง่าย ไม่เลอะเทอะ นอกจากนี้ยังเขียนลื่นไม่มีสะดุด ซึ่งเมื่อเทียบกับราคาแล้วถือว่าคุ้มค่ามากเลยค่ะ
ด้วยหัวปากกาไฟเบอร์ป้องกันการเปื่อยยุ่ย จึงทำให้ปากกาไวท์บอร์ดจาก Artline แท่งนี้แข็งแรงคงทนและไม่ทำลายผิวกระดาน มาพร้อมน้ำหมึกสูตรพิเศษไม่มีกลิ่นฉุนและไม่มีสารพิษ ใคร ๆ ก็บอกว่าเขียนลื่น เหมาะกับผู้ที่ต้องใช้ปากกาไวท์บอร์ดครั้งละนาน ๆ เป็นประจำ
อันดับที่ 1 ต้องยกให้ยี่ห้อนี้เขาเลยค่ะ เพราะน้ำหมึกคุณภาพดีไร้กลิ่นฉุน ปราศจากสาร Xylene และ Toluen ที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ จึงเขียนลื่นและให้น้ำหนักเสมอกันตลอดทั้งเส้น มีให้เลือกทั้งหัวตัด หัวกลม ครอบคลุมทุกความต้องการ อย่างไรก็ตามถ้าเขียนติดต่อกันเป็นเวลานานมาก แนะนำให้สลับไปใช้แท่งอื่นบ้างนะคะ เพราะหัวปากกาจะเสียหาย ทำให้อายุการใช้งานสั้นลงได้
เชื่อว่าทุกคนต้องเคยเจอเหตุการณ์ลบข้อความที่เขียนไปแล้วไม่ออกหรือออกยาก แนะนำให้รอสักครู่หนึ่งแล้วค่อยลบอีกครั้งค่ะ เพราะธรรมชาติของปากกาไวท์บอร์ดจะลบออกได้เมื่อทิ้งหมึกให้ระเหยแล้วสักครู่หนึ่ง ดังนั้นการลบข้อความทันทีที่เขียนจะทำให้หมึกที่ยังไม่แห้งดีเลอะเป็นปื้น ซึ่งรอยเหล่านี้หากถูกทิ้งไว้นานก็จะยิ่งลบออกยาก
อีกหนึ่งปัญหาที่มักจะเจอกันบ่อยคือ “หมึกออกไม่ดี” หรือ “หมึกออกมาเยอะเกิน” นั่นอาจเพราะก่อนหน้านั้นคุณวางปากกาไม่ถูกค่ะ ควรจะวางปากกาในแนวนอนเพื่อรักษาความสมดุลของระดับน้ำหมึกในปากกาให้เท่ากันตลอดทั้งด้าม ถ้าจับตั้งด้านใดด้านหนึ่งจะทำให้สมดุลน้ำหมึกเสีย เวลาเขียนจึงมีปัญหา
ไม่น่าเชื่อว่าแค่ปากกาเล็ก ๆ แท่งนี้จะมีอะไรมากกว่าที่เราคิด ทั้งวิธีการเลือกซื้อและกลไกการใช้งานต่าง ๆ ก่อนการซื้อสินค้าไม่ใช่แค่ปากกาไวท์บอร์ดจึงควรศึกษารายละเอียดของเขาให้ดีเสียก่อนนะคะ จะได้ใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพและตอบโจทย์ของเรามากที่สุด
สำหรับวันนี้ผู้เขียนคงต้องลากันไปก่อน แต่ถ้าใครอยากอ่านบทความแนะนำเครื่องเขียนชิ้นอื่น ๆ กันต่อ สามารถเลือกอ่านในหมวด DIY, Tools ได้เลยค่ะ ในเว็บไซต์ของเรามีแนะนำไว้หลายอย่างเลย